Page 449 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 449

บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม (ฉบับที่ 3)  พ.ศ. 2532

                     กําหนดให้ใช้ความแทนว่า
                            “การกําหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินตามวรรคหนึ่ง   ให้กําหนดเฉพาะที่ดินที่จะ
                     ดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จําเป็นจะถือเขตของตําบลหรืออําเภอเป็นหลัก

                     ก็ได้  โดยให้ดําเนินการกําหนดเขตปฏิรูปที่ดินในเขตท้องที่อําเภอที่มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบ
                     เกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่น
                     ประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจํานวนมาก  ตลอดจนที่มีผลผลิตต่อไร่ตํ่า  เป็นเกณฑ์ในการจัดอันดับ

                     ความสําคัญในการกําหนดเขตก่อนหลัง  ในกรณีที่ถือเขตของตําบลหรืออําเภอเป็นเขตปฏิรูปที่ดินนั้น
                     ให้หมายถึงเฉพาะที่ตั้งอยู่นอกเขตเทศบาลและสุขาภิบาล”
                            บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 3)  พ.ศ. 2532 ตาม

                     มาตรา 7 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 25 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
                     พ.ศ. 2518
                            “มาตรา 25 ทวิ ถ้าที่ดินที่ ส.ป.ก. ได้มาเป็นแปลงเล็กแปลงน้อยและมิได้อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน

                     ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจจัดที่ดินนั้นให้กับเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรได้ ตามมาตรา 30 เสมือนว่าเป็น
                     ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน  โดยไม่ต้องดําเนินการกําหนดเขตที่ดินในท้องที่นั้นให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินตาม
                     มาตรา 25”

                            บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม (ฉบับที่ 3)  พ.ศ. 2532  ตาม
                     มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518
                     บัญญัติว่า

                            “มาตรา 26 เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินใช้บังคับในท้องที่ใดแล้ว
                            (1)  ถ้าในเขตปฏิรูปที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแต่
                     พลเมืองเลิกใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้น หรือได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกันก็ดี

                     หรือพลเมืองยังใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นอยู่  หรือยังไม่เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสําหรับพลเมืองใช้
                     ร่วมกัน  เมื่อได้จัดที่ดินแปลงอื่นให้พลเมืองใช้ร่วมกันแทนโดยคณะกรรมการประกาศในราชกิจจา
                     นุเบกษาแล้วก็ดี  ให้พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีผลเป็นการถอนสภาพการเป็นสา

                     ธารณสมบัติของแผ่นดินสําหรับที่ดินดังกล่าวโดยมิต้องดําเนินการถอนสภาพตามประมวลกฎหมาย
                     ที่ดิน และให้ ส.ป.ก. มีอํานาจนําที่ดินนั้นมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้
                            (2) ถ้าในเขตปฏิรูปที่ดินนั้น มีที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสําหรับใช้เพื่อประโยชน์

                     ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ให้พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีผลเป็นการถอนสภาพการเป็น
                     สาธารณสมบัติของแผ่นดินดังกล่าวโดยมิต้องดําเนินการถอนสภาพตามประมวลกฎหมายที่ดิน และให้
                     ส.ป.ก.  มีอํานาจนําที่ดินนั้นมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ในกรณีที่ทางราชการยังต้องใช้













                                                                                                     8‐14
   444   445   446   447   448   449   450   451   452   453   454