Page 450 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 450
ที่ดินตอนใดเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะต่อไปให้คณะกรรมการจัดที่ดินเพื่อใช้ตามความ
จําเป็น โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(3) ถ้าในเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งเป็นที่ดินรกร้างว่าง
เปล่าหรือที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมาเป็นของแผ่นดินโดยประการอื่นตามประมวล
่
่
กฎหมายที่ดินและที่ดินนั้นอยู่นอกเขตปาสงวนแห่งชาติหรือเขตที่ดินที่ได้จําแนกให้เป็นเขตปาไม้ถาวร
ตามมติคณะรัฐมนตรี ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจนําที่ดินนั้นมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้”
บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532
กําหนดให้ใช้ความแทนว่า
“มาตรา 26 เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกากําหดเขตปฏิรูปที่ดินใช้บังคับในท้องที่ใดแล้ว
(1) ถ้าในเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
แต่พลเมืองเลิกใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้น หรือได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ก็ดี หรือพลเมืองยังใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นอยู่ หรือยังไม่เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสําหรับพลเมือง
ใช้ร่วมกัน เมื่อได้จัดที่ดินแปลงอื่นให้พลเมืองใช้ร่วมกันแทนโดยคณะกรรมการประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาแล้วก็ดี ให้พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีผลเป็นการถอนสภาพการเป็น
สาธารณสมบัติของแผ่นดินสําหรับที่ดินดังกล่าว โดยมิต้องดําเนินการถอนสภาพตามประมวลกฎหมาย
ที่ดิน และให้ ส.ป.ก. มีอํานาจนําที่ดินนั้นมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้
(2) ถ้าในเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสําหรับใช้เพื่อประโยชน์
ของแผ่นดินโดยเฉพาะ หรือที่ดินที่ได้สงวนหรือหวงห้ามไว้ตามความต้องการของทางราชการ เมื่อ
กระทรวงการคลังได้ให้ความยินยอมแล้ว ให้พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีผลเป็นการ
ถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสําหรับที่ดินดังกล่าว โดยมิต้องดําเนินการถอนสภาพ
ตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ และให้ ส.ป.ก. มีอํานาจนําที่ดินนั้นมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรมได้
(3) ถ้าในเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งเป็นที่ดินรกร้างว่าง
เปล่า หรือที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ้ง หรือกลับมาเป็นของแผ่นดินโดยประการอื่นตามกฎหมายที่ดิน
่
และที่ดินนั้นอยู่นอกเขตปาไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจนําที่ดินนั้นมาใช้ในการ
ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้
่
(4) ถ้าเป็นที่ดินในเขตปาสงวนแห่งชาติ เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้ดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
่
เกษตรกรรมในที่ดินเขตปาสงวนแห่งชาติส่วนใดแล้ว เมื่อ ส.ป.ก. จะนําที่ดินแปลงใดในส่วนนั้นไป
ดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินมีผลเป็นการเพิก
่
ถอนปาสงวนแห่งชาติในที่ดินแปลงนั้น และให้ ส.ป.ก. มีอํานาจนําที่ดินนั้นมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
่
เกษตรกรรมได้โดยไม่ต้องดําเนินการเพิกถอนตามกฎหมายปาสงวนแห่งชาติ
8‐15