Page 448 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 448
่
อธิบดีกรมปาไม้ อธิบดีกรมประมง อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรม
ส่งเสริมสหกรณ์ เลขาธิการสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมการพัฒนา
ชุมชน อธิบดีกรมที่ดิน อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม อธิบดีกรมธนารักษ์
อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
การเกษตร ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย และประธานชุมนุมสหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการ และกรรมการอื่นอีกไม่เกินเก้าคนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจาก
ผู้แทนเกษตรกรหกคน และผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินสามคน ให้เลขาธิการสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรมเป็นกรรมการและเลขานุการ
มาตรา 13 ภายใต้บังคับมาตรา 12 วรรคสอง เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดิน
ตามมาตรา 25 ใช้บังคับในเขตอําเภอหนึ่งอําเภอใดในจังหวัดใดแล้ว ให้มีคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรมประจําจังหวัดขึ้นคณะหนึ่งในจังหวัดนั้น เรียกว่า“คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด”
่
ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานกรรมการเกษตรจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ปาไม้จังหวัด
ประมงจังหวัด ผู้แทนกรมชลประทาน ผู้แทนกรมพัฒนาที่ดิน สหกรณ์จังหวัด พาณิชย์จังหวัด เจ้า
พนักงานที่ดินจังหวัด นายอําเภอ และปลัดอําเภอผู้เป็นหัวหน้าประจํากิ่งอําเภอในท้องที่ที่มีการปฏิรูป
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พัฒนาการจังหวัดประชาสงเคราะห์จังหวัด ราชพัสดุจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด
ผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และผู้แทนเกษตรกรในจังหวัดนั้นอีกสี่คนซึ่ง
รัฐมนตรีแต่งตั้ง เป็นกรรมการและปฏิรูปที่ดินจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ”
บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 ตาม
มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในวรรคสามของมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม พ.ศ. 2518 บัญญัติว่า
“มาตรา 25 การกําหนดเขตที่ดินในท้องที่ใดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
ในพระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่ง ให้มีแผนที่แสดงเขตและระบุท้องที่ที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน
แนบท้ายพระราชกฤษฎีกานั้นด้วย แผนที่ดังกล่าวให้ถือเป็นส่วนหนึ่งแห่งพระราชกฤษฎีกา
การกําหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินตามวรรคหนึ่ง ให้ถือเขตของอําเภอเป็นหลัก โดยให้
ดําเนินการกําหนดเขตปฏิรูปที่ดินในเขตท้องที่อําเภอที่มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็น
ของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบ
เกษตรกรรมอยู่เป็นจํานวนมาก ตลอดจนที่มีผลผลิตต่อไร่ตํ่า เป็นเกณฑ์ในการจัดอันดับความสําคัญใน
การกําหนดเขตก่อนหลัง
ให้ดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชักช้า และให้ดําเนินการสํารวจที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม และวางโครงการเพื่อดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในท้องที่ทุกจังหวัดทั่ว
ราชอาณาจักร ให้เสร็จภายในสามปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ”
8‐13