Page 25 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 25
จ่ายค่าทดแทนอย่างเป็นธรรมอีกด้วย และรัฐยังต้องปรับปรุงกฎหมายและดําเนินการให้การรองรับ
สิทธิของชุมชนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ส่วนประเทศไทยได้มีการรับรองสิทธิชุมชนเอาไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อหาของสิทธิชุมชนในระดับสากล พบว่า ในด้านเนื้อหามีความสอดคล้องกัน
กล่าวคือ มีการรับรองทั้งสิทธิในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสิทธิในการอนุรักษ์หรือ
ั
ฟื้นฟูจารีตประเพณี ภูมิปญญาท้องถิ่น ศิลปะหรือวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่นในกฎหมาย ดังที่บัญญัติไว้ใน
มาตรา 66 และ 67 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
เนื่องจากสิทธิชุมชนเป็นการเรียกร้องสิทธิในการจัดการและใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติ
ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน สิทธิชุมชนจึงมีลักษณะเป็นสิทธิธรรมชาติที่ไม่อาจถูกยกเลิกหรือขัดขวางได้
จากรัฐเช่นกัน เพราะการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนนั้นก็เป็นไปเพื่อดํารงรักษาชีวิต
และร่างกายอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ หากรัฐยกเลิกหรือขัดขวางการใช้สิทธิดังกล่าว
ก็เท่ากับรัฐขัดขวางการดํารงชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งซึ่งเป็นประชากรของรัฐที่รัฐมีหน้าที่ต้องดูแล
ประชากรของรัฐทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
สิทธิชุมชนจึงเป็นการกําหนดหน้าที่ของรัฐที่ต้องให้การรับรองและคุ้มครองในกฎหมายของรัฐ
ให้เท่าเทียมกับสิทธิด้านอื่น ๆ ด้วย หรืออาจกล่าวได้ว่า สิทธิชุมชนจะต้องมีสถานะทางกฎหมายที่เท่าเทียม
กับสิทธิและเสรีภาพด้านอื่น ๆ ที่รัฐให้การรับรองอยู่แล้ว โดยมิได้มีสถานะที่เหนือกว่าสิทธิและเสรีภาพ
ในด้านอื่น ๆ หรือมีสถานะอํานาจเหนือรัฐ ดังนั้น ในการตรากฎหมาย การใช้กฎหมาย และการตีความ
กฎหมายของรัฐนั้น จึงควรเป็นไปในลักษณะการยอมรับว่าสิทธิชุมชนก็มีสถานะที่เท่าเทียมกับสิทธิ
และเสรีภาพด้านอื่น ๆ ภายในรัฐด้วยเช่นกัน
1) สิทธิในการจัดการและใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ได้กําหนดสิทธิในทรัพยากรธรรมชาติ
ของชุมชนเอาไว้ 3 ประการ ได้แก่ สิทธิในการจัดการ สิทธิในการบํารุงรักษา และสิทธิในการใช้ประโยชน์
ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งนี้ สิทธิในทรัพยากรธรรมชาติทั้ง 3 ประการนี้ไม่ได้เป็นสิทธิเด็ดขาด
โดยสมบูรณ์ของชุมชน เพราะรัฐธรรมนูญได้กําหนดให้สิทธิเหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้ “การมีส่วนร่วม” ด้วย
ดังนั้น สิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการจัดการ การบํารุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร
ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน จึงหมายถึง สิทธิในการ
้
มีส่วนร่วมได้เสียร่วมกับผู้อื่นในการดําเนินการเพื่อให้เกิดความเจริญงอกงาม การระวัง ดูแล และปองกัน
และการใช้ให้ได้ผลตามที่ต้องการซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทาง
ชีวภาพที่มีอยู่ในบริเวณชุมชนอย่างมีดุลยภาพที่ยาวนาน
ในการปฏิบัติตามหลักการสิทธิมนุษยชน หน้าที่ของรัฐจะต้องพึงเคารพ หมายถึง กฎหมาย
นโยบาย และโครงการของรัฐ รวมถึงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องไม่นําไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน
้
ทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือไม่ดําเนินนโยบายที่จะส่งเสริมให้บริการขั้นพื้นฐานของรัฐ จะต้องปกปอง
้
ซึ่งหมายถึง ต้องมีกฎหมาย นโยบายหรือมาตรการที่จะดูแลหรือปองกันไม่ให้กลุ่มหรือบุคคลใดทําการ
2‐11