Page 72 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกับการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนด้วยกัน
P. 72

๖๘





                                     นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญไดเรียกรองการใชการอํานาจตรากฎหมายของฝาย
                       นิติบัญญัติวา หากกฎหมายของฝายนิติบัญญัติมีผลเปนการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตาม

                       รัฐธรรมนูญ การตรากฎหมายของฝายนิติบัญญัติตองคํานึงถึงหลักการตรากฎหมายจํากัดสิทธิตามที่

                       กําหนดไวในรัฐธรรมนูญดวย เชน กฎหมายที่มีผลเปนการจํากัดสิทธิและเสรีภาพจะตองกระทําเทาที่
                       จําเปนและจะกระทบกระเทือนถึงสาระสําคัญแหงสิทธิและเสรีภาพนั้นไมได นอกจากนี้

                       กฎหมายฉบับนั้นตองมีผลใชบังคับเปนการทั่วไป หรือตองระบุบทบัญญัติแหงรัฐธรรมนูญที่ใหอํานาจ
                                                                                       ๑๑๔
                       ในการตรากฎหมายนั้นดวย ทั้งนี้เปนไปตามมาตรา ๒๙ ของรัฐธรรมนูญ  ซึ่งองคกรภายใน
                       ฝายนิติบัญญัติซึ่งทําหนาที่ตรวจสอบวาบทบัญญัติแหงกฎหมายมีลักษณะตองหามตามมาตรา ๒๙
                                            ๑๑๕
                       ของรัฐธรรมนูญหรือไม  ไดแก คณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ซึ่งเปนหนึ่ง

                       ในคณะกรรมาธิการสามัญ (Standing Committee)  ของสภาผูแทนราษฎรที่กอตั้งขึ้นในป
                       พ.ศ. ๒๕๓๓ ภายใตรัฐบาลของพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ โดยคณะกรรมาธิการชุดนี้มีอํานาจหนาที่

                       กวางขวางทั้งการพิจารณารางกฎหมายหรือศึกษากฎหมายที่มีขอความขัดหรือแยงกับบทบัญญัติ
                       ของรัฐธรรมนูญ หรือมีขอความขัดหรือแยงกับสิทธิมนุษยชน ทําหนาที่ศึกษาปญหาสิทธิมนุษยชน

                       ทั้งภายในประเทศและนอกประเทศศึกษารับฟงการรองทุกขของบุคคลที่ไดรับการปฏิบัติที่ขัดตอ

                       กฎหมายและสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ โดยมีอํานาจเรียกเอกสารจากบุคคลใดๆ หรือเรียกบุคคลใด
                       มาแถลงขอเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นได








                              ๑๑๔
                                มาตรา ๒๙  การจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไวจะกระทํามิได เวนแตโดย
                       อาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย  เฉพาะเพื่อการที่รัฐธรรมนูญนี้กําหนดไวและเทาที่จําเปนเทานั้น และจะ
                       กระทบกระเทือนสาระสําคัญแหงสิทธิและเสรีภาพนั้นมิได

                              กฎหมายตามวรรคหนึ่งตองมีผลใชบังคับเปนการทั่วไปและไมมุงหมายใหใชบังคับแกกรณีใดกรณีหนึ่งหรือ
                       แกบุคคลใดบุคคลหนึ่งเปนการเจาะจง ทั้งตองระบุบทบัญญัติแหงรัฐธรรมนูญที่ใหอํานาจในการตรากฎหมายนั้นดวย
                              บทบัญญัติวรรคหนึ่งและวรรคสองใหนํามาใชบังคับกับกฎหรือขอบังคับที่ออกโดยอาศัยอํานาจตาม

                       บทบัญญัติแหงกฎหมายดวย โดยอนุโลม
                              ๑๑๕   มีขอสังเกตวา บทบัญญัติแหงกฎหมายที่ละเมิดตอหลักการตามมาตรา ๒๙ ของรัฐธรรมนูญ
                       ยอมเปนเงื่อนไขที่นําไปสูการถูกควบคุมตรวจสอบความชอบดวยรัฐธรรมนูญของกฎหมายโดยศาลรัฐธรรมนูญ
                       อีกดวย โดยศาลรัฐธรรมนูญจะเปนองคกรผูมีอํานาจในการตรวจสอบวา กฎหมายที่ออกโดยฝายนิติบัญญัตินั้น

                       ละเมิดขอจํากัดในทางรูปแบบและขอจํากัดในทางเนื้อหาหรือไม  อยางไรก็ดี การตรวจสอบของศาลรัฐธรรมนูญ
                       ยอมมีขอบเขตเชนกัน โดยทั่วไปแลวศาลรัฐธรรมนูญมักจะไมกาวลวงเขาไปในแดนที่เปนอิสระของฝายนิติบัญญัติ
                       เพราะฝายนิติบัญญัติยอมมีอิสระในการบัญญัติกฎหมายเพื่อประโยชนมหาชน และเพื่อใหบรรลุซึ่งผลประโยชน

                       มหาชน ฝายนิติบัญญัติจึงมีความชอบธรรมที่จะตรากฎหมายจํากัดสิทธิและเสรีภาพได ศาลรัฐธรรมนูญจะเขามา
                       ตรวจสอบความชอบดวยรัฐธรรมนูญของกฎหมายเหลานี้ในกรณีที่ขัดกับความสมเหตุสมผลอยางชัดแจงเทานั้น
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77