Page 56 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกับการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนด้วยกัน
P. 56

๕๒





                       ๒.๑ บทบาทและอํานาจหนาที่ขององคกรที่ทําหนาที่คุมครองสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค


                              ๒.๑.๑. บทบาทและอํานาจหนาที่ขององคกรที่ทําหนาที่คุมครองสิทธิมนุษยชนของ

                       สหภาพยุโรป
                                     จุดเริ่มตนของระบบการคุมครองสิทธิมนุษยชนในแถบทวีปยุโรปสืบเนื่องจากรัฐ

                       ตางๆ ในภูมิภาคยุโรปเกิดความเกรงกลัวตอลัทธิคอมมิวนิสตที่กําลังคุกคามตอสิทธิขั้นพื้นฐานและ

                       เสรีภาพทางการเมืองของประชาชน จึงมีความพยายามรวมมือกันในระดับภูมิภาค  (regional)
                                                                                          ๙๕
                       เพื่อกอตั้งองคการระหวางประเทศที่เรียกวา “สภายุโรป (Council of Europe)”  ซึ่งเปนองคการ
                       ความรวมมือระหวางรัฐบาลที่มีบทบาทสําคัญในการพัฒนากฎหมายระหวางประเทศที่เกี่ยวกับการ

                       คุมครองสิทธิมนุษยชนและมีฐานะเปนองคการระหวางประเทศที่มีบทบาทสําคัญในการยกราง
                       อนุสัญญายุโรปวาดวยการคุมครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ค.ศ. ๑๙๕๐ ซึ่งมีผลใช
                                                             ๙๖
                       บังคับเมื่อวันที่ ๓  กันยายน ค.ศ. ๑๙๕๓ 95   และกฎบัตรทางสังคมของยุโรป ค.ศ. ๑๙๖๑
                       ซึ่งมีรายละเอียดตามลําดับดังนี้

                                     - อนุสัญญายุโรปวาดวยการคุมครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ค.ศ. ๑๙๕๐

                       (European Convention for the Protection of Human Rights and Fundamental Freedom 1950)
                       ไดกําหนดหลักการสําคัญในการคุมครองสิทธิมนุษยชนใหแกปจเจกบุคคลในฐานะเปนผูเสียหายไววา

                       ในกรณีที่รัฐภาคีถูกรัฐอื่นซึ่งเปนภาคีแหงอนุสัญญาละเมิดหรือฝาฝนบทบัญญัติที่เกี่ยวกับสิทธิและ
                                                 ๙๗
                       เสรีภาพที่รับรองไวในอนุสัญญา  หรือเปนกรณีที่ปจเจกบุคคลภายในรัฐภาคีซึ่งเปนผูเสียหายกลาว






                              ๙๕
                                 แมสหภาพยุโรป (European Union: EU) จะเปนการรวมกลุมของรัฐหรือเปนองคการระหวางประเทศ
                       แตโครงสรางของสหภาพยุโรปนั้นมีลักษณะ "เหนือชาติ" (supranational trait) อยางชัดเจน เนื่องจากรัฐสมาชิก
                       มีบทบาทในการรวมสรางสรรคสถาบันหรือหนวยงานภายใน ซึ่งมีอํานาจเหนือรัฐสมาชิกรัฐใดรัฐหนึ่งโดยเฉพาะ
                       อันประกอบไปดวย สภายุโรป คณะมนตรี คณะกรรมาธิการ และศาลยุติธรรม  โดยภารกิจหลักของสภายุโรป
                       จะเปนการรวมตัดสินใจกับคณะมนตรีในประเด็นตาง ๆ ไดแก การพิจารณารางกฎหมายของสหภาพ

                       ซึ่งริเริ่มโดยคณะกรรมาธิการ การอนุมัติงบประมาณของสหภาพยุโรป ใหการรับรองความตกลงระหวางประเทศ
                       ของสหภาพยุโรปกับประเทศนอกกลุม และที่สําคัญที่สุดคือการใหการรับรองผูดํารงตําแหนงในคณะกรรมาธิการ
                       ยุโรป
                              ๙๖
                               Nicola Rowe and Volker Schlette, “The Protection of Human Rights in European after
                       the Eleventh Protocol to the ECHR” European Law Review. (London : Sweet & Maxwell, 1998), p. 2.
                              ๙๗
                               Convention for the Protection of Human Rights and Fundamental Freedom 1950
                              Article 33  – Inter-State cases
                              Any High Contracting Party may refer to the Court any alleged breach of the provisions of
                       the Convention and the protocols thereto by another High Contracting Party.
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61