Page 52 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 52
แม้ในมำตรำ ๓๐๕ จะอนุญำตให้สิทธิผู้หญิงตั้งครรภ์ในกำรยุติกำรตั้งครรภ์ได้ แต่เป็นกำรใช้
สิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ภำยใต้อ ำนำจและกำรตัดสินใจของแพทย์ ไม่ใช่หญิงเจ้ำของครรภ์เอง และใน
ประมวลกฎหมำยจะคุ้มครองหญิงตั้งครรภ์จำกควำมรุนแรง ตำมมำตรำ ๒๗๖ มำตรำ ๒๗๗ มำตรำ ๒๘๒
มำตรำ ๒๘๓ หรือ มำตรำ ๒๘๔ ซึ่งหมำยถึง กำรตั้งครรภ์จำกกำรข่มขืนช ำเรำ หรือใช้อุบำยหลอกลวง
ขู่เข็ญ ใช้ก ำลังประทุษร้ำย ใช้อ ำนำจครอบง ำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจ ท ำให้ผู้หญิงตกอยู่ในภำวะ
ที่ไม่สำมำรถขัดขืนได้ ซึ่งเป็นกำรคุ้มครองผู้ถูกละเมิดสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ แต่ในประมวลกฎหมำยเองก็
ได้ละเมิดสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ด้วยกำรไม่ให้ผู้หญิงมีสิทธิในกำรตัดสินใจอย่ำงอิสระและรับผิดชอบใน
เรื่องจ ำนวนบุตร เวลำที่จะมีบุตร และระยะห่ำงของกำรมีบุตรแต่ละคน มีสิทธิในกำรตัดสินใจอย่ำงเสรีและ
รับผิดชอบในเรื่องต่ำงๆ ที่เกี่ยวกับเพศวิถี สุขภำพทำงเพศและเกี่ยวกับกำรเจริญพันธุ์ โดยไม่ถูกเลือก
ปฏิบัติ บังคับ หรือใช้ควำมรุนแรง ตำมสิทธิในกำรมีชีวิตอยู่อย่ำงมีศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ สิทธิในกำร
ตัดสินใจว่ำจะมีบุตรหรือไม่และจะมีเมื่อใด และสิทธิในกำรดูแลและป้ องกันสุขภำพ
แต่เป็นที่น่ำสังเกตว่ำมำตรำ ๒๗๗ เปิดโอกำสให้เด็กที่อำยุต ่ำกว่ำ ๑๕ ปี สำมำรถท ำแท้งได้อย่ำง
ถูกกฎหมำย เพรำะระบุไว้ว่ำ
“มาตรา ๒๗๗ ผู้ใดกระท าช าเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยา
หรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม...”
ซึ่งจำกกำรตีควำมโดยอำศัยตัวบทกฎหมำย เยำวชนหญิงที่ตั้งครรภ์และอำยุต ่ำกว่ำ ๑๕ ปี สำมำรถยุติกำร
ตั้งครรภ์ได้ตำมมำตรำมำตรำ ๓๐๕
อย่ำงไรก็ตำม แม้กฎมำยจะมีช่องว่ำงในกำรตีควำม ที่เป็นกำรเปิดโอกำสให้เยำวชนหญิงตั้งครรภ์
สำมำรถใช้สิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง เยำวชนที่อำยุต ่ำกว่ำ ๑๕ ปี แต่ต้องผ่ำนกำร
พิจำรณำและกำรตีควำมโดยแพทย์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สร้ำงปัญหำต่อกำรตีควำมและกำรปฏิบัติ ท ำให้แพทย์
ปฏิเสธกำรท ำแท้ง เพื่อควำมปลอดภัยทำงกฎหมำยของผู้เป็นแพทย์เอง ซึ่งขัดต่อหลักสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์
ที่กำรประกันสุขภำพของรัฐบำล และบุคลำกรทำงกำรแพทย์จะต้องบริกำรต่อผู้หญิงโดยยึดหลักสิทธิ
มนุษยชน มีควำมละเอียดอ่อน เข้ำใจมิติเพศภำวะ และยึดถือควำมสมัครใจของผู้รับบริกำรที่ได้ข้อมูล
ครบถ้วนเป็นหลัก
เมื่อรัฐไม่สำมำรถบริกำรกำรยุติกำรตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย รำคำถูก มีประสิทธิภำพ เข้ำถึงง่ำย
ผู้หญิงจึงต้องลักลอบยุติกำรตั้งครรภ์ ท ำให้กำรท ำแท้งหรือยุติกำรตั้งครรภ์ในรูปแบบต่ำงๆ ไม่มีกำรประเมิน
คุณภำพ มีระบบจัดมำตรฐำนที่ปลอดภัย ต่อสุขภำวะ น ำไปสู่กำรบำดเจ็บ ภำวะแทรกซ้อนพิกำร เสียชีวิต
ซึ่งขัดต่อหลักสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ ซึ่งถือว่ำ ประมวลกฎหมำยมำตรำ ๓๐๑-๓๐๕ ขัดต่อหลักสิทธิอนำมัย
เจริญพันธุ์ที่ว่ำด้วยสิทธิในกำรดูแลและป้ องกันสุขภำพ และรวมไปถึงสิทธิในกำรมีชีวิตอยู่อย่ำงมีศักดิ์ศรี
ควำมเป็นมนุษย์ผู้หญิงมีสิทธิที่จะไม่ตกอยู่ในอันตรำยจำกกำรตั้งครรภ์, ไม่ตกอยู่ในอันตรำยเพรำะกำร
๕๑