Page 56 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 56
ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู นั้นประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม รักษา
มาตรฐานในระดับที่ดีที่สุด
ข อ ๑๐ ผู ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ปฏิบัติเกี่ยวกับการยุติการตั้ง
ครรภ ทางการแพทย ตามข อบังคับนี้ ให ถือว าได กระท า ตาม
มาตรา ๓๐๕ แห งประมวลกฎหมายอาญา”
(รำชกิจจำนุเบกษำ ๑๕ ธันวำคม ๒๕๔๘ เล ม ๑๒๒ ตอนที่ ๑๑๘ ง หน ำ ๗-๘)
แม้ว่ำกฎหมำยรัฐไทยตีตรำว่ำกำรท ำแท้งเป็นอำชญำกรรม แต่อย่ำงน้อยที่สุดถือว่ำ ยังคุ้มครอง
สิทธิในกำรตัดสินใจว่ำจะมีบุตรหรือไม่และจะมีเมื่อใด (Rights to Decide Whether or When to Have
Children or Rights to Self-determination) อยู่บ้ำง ตำมข อบังคับแพทยสภำข้อ ๓ ที่ยังให้อ ำนำจของ
ผู้หญิงในกำรตัดสินใจและยินยอม และเพื่อควำมปลอดภัยของหญิงที่ยินยอมท ำแท้งผู้ที่จะท ำแท้งให้ได้จึง
ต้องเป็นแพทย์ ตำมข อบังคับ ข้อ ๔ คือ ต้องเป็นผู้ ประกอบวิชำชีพเวชกรรมตำมกฎหมำย และท ำใน
สถำนพยำบำลตำม ข้อ ๗ ซึ่งถือว่ำเป็นกำรคุ้มครองสิทธิในกำรดูแลและป้ องกันสุขภำพ (Rights to Health
Care and Health Protection) อย่ำงไรก็ตำมเป็นกำรสร้ำงข้อจ ำกัดกำรท ำแท้ง ยุติกำรตั้งครรภ์ให้รัดกุม
เท่ำนั้น และเป็นกำรปกป้ องคุ้มครองแพทย์ไม่ให้กำรท ำแท้งเป็นอำชญำกรรมมำกกว่ำ คุ้มครองสิทธิของ
เยำวชนหญิงตั้งครรภ์ ดังนั้นข อบังคับแพทยสภำจึงไม่ได้มีบทข้อห้ำมถึงกำรปฏิเสธกำรยุติกำรตั้งครรภ์
แพทย์ผู ประกอบวิชำชีพเวชกรรม
โดยสรุปแล้วพบว่ำ บทกฎหมำยต่ำงๆ ของรัฐไทย มีควำมพยำยำมอย่ำงยิ่งต่อกำรคุ้มครองสิทธิ
เด็กและเยำวชน ในฐำนะประชำชนพลเมืองของรัฐ ซึ่งเป็นกำรมุ่งเน้นในประเด็นควำมรุนแรง ทำรุณกรรม
กำรบังคับ และกำรเลือกปฏิบัติ รวมไปถึงสิทธิในกำรพัฒนำยกระดับชีวิต ควำมเป็นอยู่ผ่ำนกำรศึกษำ แต่
ไม่ได้มุ่งให้ควำมส ำคัญถึงกำรอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ อนำมัยเจริญพันธุ์ และสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ของเด็ก
และเยำวชน น ำไปสู่กำรไม่มีกฎหมำย บทบัญญัติในกำรคุ้มครองสิทธิของเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ ในกำรดูแล
และป้ องกันสุขภำพ ในกำรตัดสินใจว่ำจะมีบุตรหรือไม่และจะมีเมื่อใด กำรเข้ำถึงบริกำร ควำมรู้ส ำหรับยุติ
กำรตั้งครรภ์ ยิ่งไปกว่ำนั้น กำรท ำแท้งหรือยุติกำรตั้งครรภ์ยังถูกบัญญัติในฐำนะอำชญำกรรมอย่ำงหนึ่งที่มี
บทลงโทษชัดเจน และอยู่บนกำรตีควำมของแพทย์และเจ้ำหน้ำที่จำกภำครัฐเท่ำนั้น ไม่ใช่กำรตัดสินใจของ
เยำวชนหญิงผู้ตั้งครรภ์ ทั้งๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชนตำมปฏิญญำสำกลว่ำด้วยสิทธิมนุษยชน,
กติกำระหว่ำงประเทศว่ำด้วยสิทธิทำงเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม, อนุสัญญำว่ำด้วยกำรขจัดกำรเลือก
ปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ, อนุสัญญำว่ำด้วยสิทธิเด็ก, แผนปฏิบัติกำรประชำกรและกำรพัฒนำ,
แผนปฏิบัติเพื่อควำมก้ำวหน้ำของสตรี
๒.๔ มาตรการของภาครัฐและภาคสังคมต่อเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม
๕๕