Page 69 - รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย : กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
P. 69
ปลอดภัยประจำาอยู่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม เพลินจิต และราชประสงค์ คงมีเพียงเจ้าหน้าที่
ตำารวจเข้าดูแลความสงบบนสถานี ยกเว้นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติที่มีเจ้าหน้าที่
ทหารเข้าสังเกตการณ์ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๓ จนถึงวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๓
สำาหรับสถานการณ์ในต่างจังหวัด ข้อเท็จจริงปรากฏว่า จังหวัดขอนแก่น
จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดเชียงใหม่ ต่างมีหนังสือชี้แจง
ข้อเท็จจริงเหตุการณ์การเผาอาคารของส่วนราชการในต่างจังหวัด ภายหลังจากที่แกนนำากลุ่ม
นปช. ได้ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว โดยต่างยืนยันสอดคล้องต้องกันว่า กลุ่ม นปช. ในพื้นที่ของ
จังหวัดดังกล่าว ได้รวมตัวกันบุกรุกเข้าไปในศาลากลางและสถานที่ราชการ แล้วทำาการเผาอาคาร
ซึ่งต่อมามีการดำาเนินคดีกับผู้กระทำาการดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้ชี้แจง
ข้อเท็จจริงด้วยว่า กรุงเทพมหานครได้รับความเสียหายจากการชุมนุม เป็นเงินจำานวนกว่า ๒๐๐
ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมความเสียหายของภาคเอกชน
ด้านการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทหาร พยานบุคคลที่เป็นผู้ชุมนุมรายหนึ่งให้
ข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เห็นเหตุการณ์ที่ทหารใช้กำาลังต่อประชาชนโดย
ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม และถูกเจ้าหน้าที่ทหารทำาร้าย โดยตลอดการชุมนุมไม่เห็นว่ามี
ผู้ชุมนุมคนใดมีอาวุธตามที่ปรากฏเป็นข่าว สอดคล้องกับพยานอีกรายที่ให้ข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่
๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ตั้งแต่ช่วงเช้า เห็นเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาสลายการชุมนุมและทำาร้าย
ผู้ชุมนุมด้วยการกระทืบและจับมัด รวมทั้งใช้อาวุธปืนยิงผู้ที่ทำาหน้าที่เป็นการ์ด นปช. จนเสียชีวิต
๒ ราย ทั้งที่ไม่มีอาวุธ มีเพียงหนังสติ๊ก และไม้ไผ่เหลาแหลมเท่านั้น นอกจากนี้ พยานบุคคล
อีกหลายรายยังได้ให้ข้อเท็จจริงที่สอดคล้องต้องกันด้วยว่า ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงด้วย
กระสุนปืน โดยวิถีของกระสุนปืนคาดว่าน่าจะมาจากทิศทางที่เจ้าหน้าที่ทหารประจำาการอยู่
ด้าน ศอฉ. ได้ชี้แจงว่า การปฏิบัติการเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เป็นการ
กระชับพื้นที่สวนลุมพินีเท่านั้น ซึ่งอาจหมายถึง การเข้าควบคุมการใช้พื้นที่ดังกล่าว เพื่อมิให้
เป็นที่ซ่องสุมและใช้อาวุธของกลุ่มติดอาวุธ/ชายชุดดำา เนื่องจากในห้วงก่อนหน้านี้มีการใช้อาวุธ
ออกมาจากบริเวณพื้นที่สวนลุมพินีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นที่ตั้งของ
สถานเอกอัครราชทูต และที่พักของเจ้าหน้าที่ทางการทูตต่างประเทศอยู่หลายแห่ง ที่รัฐบาลต้อง
ดูแลรักษาความปลอดภัย จึงจำาเป็นต้องกระชับพื้นที่เพื่อควบคุมสวนลุมพินี อย่างไรก็ตาม
แผนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในลักษณะดังกล่าว ทุกแผนจะมีเส้นทางออกให้ผู้ชุมนุมสามารถ
เดินทางกลับออกไปจากพื้นที่การชุมนุมได้ ไม่ได้เป็นการปิดกั้น/ปิดล้อมทุกเส้นทางเข้าออกที่จะ
เป็นการบีบบังคับให้ผู้ชุมนุมต้องใช้วิธีการรุนแรง เข้าต่อสู้กับเจ้าหน้าที่แบบจนมุมหรือจนตรอก
แต่อย่างใด โดยได้ใช้กำาลัง ๓ หน่วยหลักเข้าควบคุมพื้นที่สวนลุมพินี และเคลื่อนที่ต่อไป
ตามแนวรั้วสวนลุมพินีขนานกับถนนราชดำาริ ซึ่งระหว่างการเคลื่อนที่ได้ถูกยิงอาวุธปืนเล็กใส่
อย่างต่อเนื่อง จนสามารถควบคุมที่หมายแยกสารสินตัดถนนวิทยุ และที่หมายแยกหลังสวน
67
รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓