Page 66 - รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย : กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
P. 66

ผู้ชุมนุมจำานวนมากอยู่บริเวณดังกล่าว  และมีเจ้าหน้าที่ทหารตั้งด่านอยู่บนสะพานเชื่อมต่อ

                  ไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  จากนั้นได้มีเหตุยิงปะทะและระเบิดเกิดขึ้น
                                                                               ้
                  พยานบางรายเห็นว่า เจ้าหน้าที่ทหารมีอาวุธปืนเอ็ม ๑๖  ปืนพกสั้น แก๊สนำาตา ระเบิดมือและระเบิด
                  ขวดด้วย  นอกจากนี้ ในเขตพื้นที่ต่อเนื่องกันนั้น  มีการติดป้ายจากแนวสี่แยกราชปรารภ-สี่แยก
                  พญาไท ว่าเป็นเขตการใช้กระสุนจริง  การปะทะเริ่มมีมากขึ้น จนกระทั่งเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น.

                  กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าล้อมรถของเจ้าหน้าที่ทหาร  และเข้าทำาลายรถด้วยการทุบกระจกรถจนแตก
                  และฉุดลากตัวเจ้าหน้าที่ ๓ นาย ลงจากรถและเริ่มทำาร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ

                                   บริเวณสวนลุมพินี เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. มีรถถังของเจ้าหน้าที่ทหารวิ่งมา

                  จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และสภากาชาดไทยมาหยุดอยู่ตรงแยกศาลาแดง  จากนั้นมีเสียงปืน
                  ดังขึ้นหลายนัดมาจากฝั่งของเจ้าหน้าที่ทหาร  แต่ไม่มีผู้ใดเห็นผู้ที่ยิง ทราบแต่เพียงว่าวิถีของ

                  กระสุนพุ่งลงมาจากด้านบน  เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. มีรถบรรทุกเจ้าหน้าที่ทหาร จำานวน
                  ๓  คันแล่นลงมาจากสะพานไทย – เบลเยี่ยม  กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งจึงจุดประทัดขับไล่

                  จากนั้น มีเสียงปืนดังขึ้น ๓ นัด มาจากทางโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีเจ้าหน้าที่ทหาร
                  ประจำาการอยู่

                                   วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓  ช่วงเวลาประมาณ ๐๙.๓๐ น. บริเวณโรงแรม
                  เซ็นจูรี่ พาร์ค  มีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันอยู่บริเวณสองฝั่งของถนนราชปรารภ  ต่อมา ผู้ชุมนุม

                  มีอาการแตกตื่น เนื่องจากเกิดเหตุยิงปะทะกัน  พยานบางรายเห็นเจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้ใช้

                  อาวุธปืนยิง โดยผู้ชุมนุมใช้หนังสติ๊กเพื่อตอบโต้  ขณะที่ในหลายพื้นที่มีการเผายางรถยนต์
                  ปาระเบิด  กลุ่มผู้ชุมนุมมีจำานวนมากขึ้นและกระจายกันไปเป็นจุดๆ  เจ้าหน้าที่ทหารเริ่มที่จะใช้
                  กระสุนจริงโดยเจ้าหน้าที่ทหารได้เตือนว่าเขตใดบ้างที่จะมีการใช้กระสุนจริง มีการปล้นทรัพย์สิน

                  เผาอาคาร ทำาให้เหตุการณ์เลวร้ายลง  โดยบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  มีชาย ๒ คนถูกยิง

                  ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและที่กลางหลัง  ทราบภายหลังว่า  ทั้ง  ๒  คน  เข้าไปขโมยของที่ร้าน
                  สะดวกซื้อ แล้วถูกเจ้าหน้าที่ทหารใช้ปืนยิง  ด้าน ศอฉ. อ้างว่า เจ้าหน้าที่ทหารตามด่านตรวจต่างๆ
                  ได้ใช้วิธีการแจ้งและใช้อาวุธยิงเพื่อเตือน  และป้องกันตนเองตามความจำาเป็นของสถานการณ์

                  ตลอดวันจนถึงเวลากลางคืน

                                   วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๓  เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น.  การปะทะกันยัง
                  คงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง  พยานรายหนึ่งให้ถ้อยคำาว่า  ขณะที่ยืนอยู่บนสะพานลอยบริเวณถนน

                  ราชปรารภ  พยานเห็นเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ ๓ นาย ยืนรักษาการอยู่ตรงข้ามโดยมีอาวุธ
                  ปืนยาว  ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงปืนยิงมาจากที่สูงลงมาบริเวณที่ยืนอยู่หลายนัด  กระสุนถูก

                  ประชาชนรายหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังจนล้มลง  ต่อมา เวลาประมาณ ๒๐.๔๐ น. พยานรายหนึ่ง
                  ให้ถ้อยคำาว่า  ขณะทำาหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ที่โรงงานบริเวณถนนราชปรารภ  พบว่า

                  ด้านนอกมีการยิงปะทะกันเป็นระยะ  และมีเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ ๑๐๐ นาย พร้อมอาวุธ




                                                         64
                                             รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
                                กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71