Page 72 - รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย : กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
P. 72
เห็นได้ว่า การใช้เสรีภาพในการชุมนุมของกลุ่ม นปช. บางส่วน ระหว่างวันที่
๑๓ - ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เป็นเหตุที่สามารถส่งผลโดยตรงหรือโดยอ้อม ให้เกิดกรณีการ
สูญเสียชีวิต บาดเจ็บ และทรัพย์สินของราชการและเอกชนได้รับความเสียหาย เห็นได้ชัดว่า
เป็นการชุมนุมที่ไม่สงบและใช้อาวุธ โดยข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีบุคคลใช้อาวุธยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่
ทหารอยู่เป็นระยะ แม้ในปัจจุบันจะยังไม่อาจพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวนั้นเป็น
ผู้ใดหรือฝ่ายใด แต่ลักษณะของการใช้อาวุธนั้นเป็นการกระทำาต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ของการชุมนุม
นอกจากนี้ ผลของการชุมนุมในช่วงระยะเวลาดังกล่าวข้างต้นได้เกิดผลกระทบต่อชีวิตร่างกาย
และการประกอบอาชีพ ตลอดจนทรัพย์สินของบุคคลอื่น ดังนั้น การใช้เสรีภาพในการชุมนุมของ
กลุ่ม นปช. จึงยังไม่สอดคล้องและเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๕๐ มาตรา ๒๗ ที่บัญญัติว่า “สิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้โดยชัดแจ้ง โดย
ปริยาย หรือโดยคำาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญย่อมได้รับความคุ้มครอง และผูกพันรัฐสภา
คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐโดยตรงในการตรากฎหมาย
การใช้บังคับกฎหมาย และการตีความกฎหมายทั้งปวง” และมาตรา ๖๓ ที่บัญญัติว่า
“บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ
การจำากัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำานาจตามบทบัญญัติ
แห่งกฎหมาย เฉพาะในกรณีการชุมนุมสาธารณะ และเพื่อคุ้มครองความสะดวกของประชาชน
ที่จะใช้ที่สาธารณะ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม
หรือในระหว่างเวลาที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศใช้กฎอัยการศึก”
ตามข้อเท็จจริง รัฐบาลโดย ศอฉ. ได้กำาหนดมาตรการเพื่อให้เกิดความสงบ
เรียบร้อยในพื้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุมและบริเวณโดยรอบ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ -
๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ โดย ศอฉ. ได้ประกาศแจ้งให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่และใช้มาตรการตัด
การบริการสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ระบบขนส่งมวลชน รวมทั้งปิดล้อมเส้นทาง
โดยรอบสี่แยกราชประสงค์ และกำาหนดให้เจ้าหน้าที่ทหารสามารถใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตนเองได้
ซึ่งกำาหนดให้ใช้กระสุนจริงใน ๓ กรณี คือ ยิงขึ้นฟ้าเพื่อสกัดกั้นและแจ้งเตือน รักษาระยะห่าง
จากกลุ่มผู้ชุมนุม ตลอดจนยิงป้องกันตนเองหรือประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่กำาลังถูกคุกคามต่อชีวิต
และตอบโต้กับกลุ่มติดอาวุธสงคราม ซึ่งเป็นเป้าหมายชัดเจน โดยคำานึงถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์
พิจารณาแล้วเห็นว่า มาตรการต่างๆ ของรัฐบาลที่ใช้ในกระชับพื้นที่บริเวณ
สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุมและบริเวณโดยรอบ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ - ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓
ซึ่ง ศอฉ. อ้างว่า มีความมุ่งหมายเพื่อจำากัดพื้นที่การชุมนุมและปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่อาจ
ถูกคุกคามต่อชีวิต อันเป็นการใช้อำานาจตามบทบัญญัติของพระราชกำาหนดการบริหารราชการ
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ กรณีดังกล่าวเห็นว่า การที่รัฐใช้อำานาจจำากัดเสรีภาพใน
การชุมนุมเป็นการใช้อำานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะในกรณีการชุมนุมสาธารณะ และ
70
รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓

