Page 68 - รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย : กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
P. 68
ฝั่งตรงข้ามกับอาคารของโรงพยาบาลตำารวจ
ด้าน ศอฉ. ได้เข้ากระชับพื้นที่ โดยเริ่มจากแยกศาลาแดงต่อไปยังบริเวณ
สวนลุมพินี และบริเวณโดยรอบสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเกิดการปะทะเพื่อขัดขวางการปฏิบัติการ
ของเจ้าหน้าที่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำานวนมาก เป็นเหตุให้แกนนำากลุ่ม นปช.
ได้ตัดสินใจยุติการชุมนุม ท่ามกลางเสียงคัดค้านของผู้ชุมนุมที่ต้องการชุมนุมต่อไป ซึ่งแกนนำา
กลุ่ม นปช. ที่เหลืออยู่ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่สำานักงานตำารวจแห่งชาติ กระทั่งเกิดเหตุการณ์
บานปลาย มีการจุดไฟเผาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์และโรงภาพยนตร์สยาม รวมทั้งอีกหลาย
พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร
เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. พยานรายหนึ่งให้ถ้อยคำาว่า มีกลุ่มบุคคล
ประมาณ ๑๐ คน บุกรุกเข้าไปในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จากนั้นได้จุดไฟเผาร้านเสื้อผ้า แต่สปริงเกอร์
ทำางานจนสามารถดับไฟได้ กลุ่มของ รปภ. จึงโห่ร้องขับไล่ เป็นเหตุให้กลุ่มบุคคลที่บุกรุกยิง
หนังสติ๊ก ซึ่งใช้ลูกแก้วเป็นกระสุนเข้าใส่กลุ่ม รปภ. จากนั้น ได้โยนระเบิดเข้ามาภายในห้าง
แต่เนื่องจากแรงระเบิดไปกระทบกับตะแกรงและชั้นวางสินค้า ทำาให้ รปภ. ได้รับบาดเจ็บประมาณ
๑๐ คน กลุ่มบุคคลที่บุกเข้าไปในห้าง ไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ แต่งชุดสีดำาคล้าย
การ์ด นปช. ผู้ที่โยนระเบิดก็เป็นคนที่ใส่ชุดดำา
เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. พยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับแจ้งว่า เกิด
เพลิงไหม้อาคารร้างบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงใกล้กับโรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค จึงนำารถดับเพลิง
ขนาดเล็กมุ่งหน้าไปยังอาคารดังกล่าว เมื่อไปถึงพบเพลิงกำาลังไหม้ และมีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ
๑๐๐ คน รวมตัวกันอยู่และไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าทำาการดับเพลิง จึงได้ลงไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม
เพื่อขอเข้าไปดับไฟไม่ให้ลุกลามไปอาคารข้างเคียง จึงถูกตีที่ศีรษะด้วยไม้ด้ามธง ขณะที่พยาน
อีกรายหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำารวจได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่กับพวกถูกกลุ่มผู้ชุมนุมล้อมจะทำาร้าย
ที่บริเวณธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองเตย จึงเดินทางไปช่วยเหลือ เมื่อเดินทางไปถึงพบเพียง
กลุ่มชายฉกรรจ์ จำานวน ๔ - ๕ คน อยู่ภายในธนาคารกสิกรไทยดังกล่าว จึงได้แสดงหลักฐานว่า
เป็นเจ้าหน้าที่ตำารวจเพื่อจะควบคุมตัว ขณะนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ภายนอกธนาคารได้ปลุกระดม
ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาทำาร้ายพยาน มีผู้ชุมนุมไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด สันนิษฐานว่าใช้หนังสติ๊กยิง
วัตถุของแข็งถูกศีรษะพยานได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับไม่ทราบว่ามีผู้ชุมนุมคนใดได้กระชากเอาอาวุธ
ปืนพกสั้น ขนาด ๙ มิลลิเมตร ยี่ห้อสตาร์ หมายเลขทะเบียน กท.๓๙๑๓๙๐๗๓ ซึ่งเป็นอาวุธปืน
ส่วนตัวและกระชากเอาบัตรประจำาตัวฝ่ายสืบสวนไป
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำากัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้า
บีทีเอส ได้ปิดให้บริการสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชดำาริ ตั้งแต่วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๓ และทยอย
ปิดและเปิดเดินรถในบางช่วงเวลา ตั้งแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๓ เพื่อความปลอดภัยของ
ผู้โดยสารและพนักงาน โดยในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ไม่มีเจ้าหน้าที่และพนักงานรักษาความ
66
รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓