Page 50 - รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย : กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
P. 50
ที่ฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายต่อสถานการณ์ดังกล่าว จนเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่
ผู้ปฏิบัติงานและกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำานวนมาก การกระทำา
ของรัฐบาล แม้รับฟังได้ว่าเป็นการป้องกันตนเองและบุคคลอื่นให้พ้นจากภยันตรายต่อชีวิตและ
ร่างกาย หรือเพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระทำาผิดอาญาร้ายแรงหรือเพื่อกระทำาการจับกุมผู้ที่กระทำา
อันตรายหรือต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานก็ตาม แต่ต้องไม่ทำาเกินกว่าเหตุ นอกเสียจากไม่สามารถ
ใช้มาตรการอื่นแทนได้ แต่การกระทำาที่เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำานวนมาก
การกระทำาของรัฐจึงเป็นการกระทำาโดยประมาทและประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาด จึงเป็น
เรื่องที่รัฐบาลไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ อีกทั้งรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน
ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมายอื่นได้กำาหนดไว้ รัฐบาลจึงต้องรับผิดชอบ
ในความเสียหายที่เกิดจากความประมาทนั้น ตลอดจนดำาเนินการให้ความช่วยเหลือและเยียวยา
ตามสมควรแก่ผู้ที่ได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าวให้ครบถ้วนและทั่วถึงอย่างแท้จริง
ทั้งในส่วนของผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ตลอดจนการ
บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ เป็นผลมาจากการกระทำาความผิดตามประมวลกฎหมาย
อาญา ซึ่งรัฐต้องมีหน้าที่ในการดำาเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
นอกจากนี้ เหตุระเบิดในที่ประชุมนายทหารในพื้นที่ โดยปรากฏข้อเท็จจริง
เป็นภาพหรือถ้อยคำาของพยานว่ามีการใช้แสงเลเซอร์ชี้เป้าก่อนนั้น แสดงให้เห็นได้ว่า มีการ
วางแผนเพื่อฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในที่ประชุมในวันนั้น ซึ่งเป็นผลให้พันเอก ร่มเกล้า
ธุวธรรม และสิบโท ภูริวัฒน์ ประพันธ์ ถึงแก่ความตาย อันเป็นการกระทำาผิดอาญาฐานฆ่า
คนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งรัฐโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำานาจหน้าที่เกี่ยวข้องต้องสืบสวน
หาผู้กระทำาผิดมาลงโทษ รวมทั้งสอบสวนหาที่มาของอาวุธร้ายแรงชนิดต่างๆ ที่ใช้ในการชุมนุม
เพื่อดำาเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำาหรับกรณีการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น
สำานักข่าวรอยเตอร์ กรณีดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเป็นคดีพิเศษและดำาเนินการ
ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมแล้ว เมื่อหน่วยงานที่มีอำานาจโดยตรงได้ดำาเนินการตาม
กฎหมายแล้ว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จึงไม่จำาต้องวินิจฉัยในประเด็นนี้
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของกลุ่ม นปช. ขณะนี้ กรณีดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนตาม
กระบวนการยุติธรรมแล้ว จึงไม่จำาต้องวินิจฉัยในประเด็นนี้เช่นกัน
กล่าวโดยสรุป สำาหรับกรณีของชายชุดดำา กรณีการเสียชีวิตของผู้ชุมนุม
เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้สื่อข่าว และประชาชนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทุกราย รวมถึง ผู้ได้รับบาดเจ็บ
และทรัพย์สินได้รับความเสียหายด้วย รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ต้องใช้หลักวิชา
ตามกำาลังความรู้ความสามารถในการอำานวยความยุติธรรมอย่างเต็มที่ และไม่มีการเลือกปฏิบัติ
โดยควรดำาเนินการสืบสวนสอบสวนและคลี่คลายให้สังคมได้รับรู้ พร้อมทั้งลงโทษผู้กระทำาความผิด
48
รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓