Page 30 - รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย : กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
P. 30

แกนนำากลุ่ม นปช. ได้ประกาศนัดชุมนุมใหญ่ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๓  โดยให้ประชาชนที่

                  สนับสนุนจากต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ จากนั้น
                  รัฐบาลจึงประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร  พ.ศ. ๒๕๕๑

                  เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๓  ต่อมา วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ กลุ่ม นปช. ได้เริ่มจัดตั้งเวทีที่บริเวณ
                  สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา การชุมนุมในช่วงนี้ได้ดำาเนินไปด้วยความสงบ

                  และปราศจากอาวุธ  แต่หลังจากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้เคลื่อนขบวนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
                  มีการปิดล้อมและเข้าไปในตัวอาคารสถานที่ต่างๆ  โดยปิดเส้นทางการจราจรบริเวณหน้ากรม

                  ทหารราบ ที่ ๑๑ ตั้งแต่แยกเกษตรไปจนถึงวงเวียนอนุสาวรีย์หลักสี่  นำาเลือดไปเทที่ทำาเนียบรัฐบาล
                  และพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๓  และที่บ้านพักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่

                  ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๓  เคลื่อนขบวนขับไล่เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งอยู่ในบริเวณวัดและสถานที่ต่างๆ เช่น
                  วัดตรีทศเทพวรวิหาร วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร วัดมกุฏกษัตริยารามวรวิหาร วัดแคนางเลิ้ง

                  วัดโสมนัสราชวรวิหาร สนามม้านางเลิ้ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร สวนสัตว์ดุสิต
                  จากนั้น วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๓  กลุ่ม นปช. เริ่มมีการขยายพื้นที่การชุมนุม โดยแกนนำากลุ่ม นปช.

                  ได้เคลื่อนขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ  ไปตั้งเวทีปราศรัยบริเวณสี่แยก
                  ราชประสงค์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อกดดันให้นายอภิสิทธิ์ฯ ยุบสภา โดยมี

                                                                  ้
                  การปิดการจราจรบริเวณสี่แยกราชประสงค์ สี่แยกประตูนำา สี่แยกชิดลม สี่แยกเฉลิมเผ่า และสี่แยก
                  ราชดำาริ และมีการเคลื่อนขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล และ

                  ในวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๓ กลุ่ม นปช. ได้เคลื่อนขบวนปิดล้อมอาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
                  ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อทวงถามคดียุบพรรคประชาธิปัตย์จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง และได้

                  ขยายพื้นที่การชุมนุมมากขึ้น  แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำารวจทำาการเจรจาต่อรองกับกลุ่มผู้ชุมนุม และ
                  แจ้งให้ทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม  กลุ่มผู้ชุมนุมจึงเปิด

                  เส้นทางจราจรบางส่วน  จนกระทั่งต่อมา เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๓  กลุ่ม นปช. บางส่วนได้
                  ตั้งขบวนออกจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศเพื่อเดินทางไปยังสถานีดาวเทียมไทยคม  อ้างว่า รัฐบาล

                  จะปิดสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนลหรือพีทีวี  พร้อมกับเดินทางไปปิดล้อมและบุกเข้าไปในอาคาร
                  รัฐสภา  มีการยึดอาวุธและทำาร้ายสารวัตรทหารจนได้รับบาดเจ็บ  พร้อมประกาศจับตัวนายสุเทพ

                  เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง  และให้การ์ด นปช. เข้าไปค้นในรัฐสภา หลังจาก
                  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยเข้าไปเจรจา  กลุ่ม นปช. จึงได้ยินยอมถอยออกไป

                  ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาลได้หลบออกจากอาคารรัฐสภา
                  ทางด้านพระที่นั่งพิมานเมฆ

                                   จากเหตุการณ์ดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ฯ ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ
                  และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัด

                  ใกล้เคียง





                                                         28
                                             รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
                                กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35