Page 10 - บทบาทคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 10

ที่ชุมชนหรือหมู่คณะจะมีความส าคัญเหนือปัจเจกชนทั้งหลาย  เพราะนั่นย่อมหมายถึงการหมุนนาฬิกา

                 ย้อนกลับ รังแต่จะน าพาให้ล้มเหลว   ชุมชนดั้งเดิมเองก็เช่นกัน แม้ว่าจะกอปรด้วยความรู้และภูมิปัญญา
                 สูงค่าของตน แต่ก็จ าต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เท่าทันกับกาลเวลาและความเปลี่ยนแปลงพร้อม ๆ ไปกับ
                 การธ ารงรักษาบูรณภาพของตนให้ยั่งยืน   สิทธิเสรีภาพของปัจเจกชนย่อมเป็นส่วนส าคัญอันขาดมิได้ใน

                                                                                                      10
                 กระบวนการเรียนรู้ที่ว่านี้  เพียงแต่ว่าควรเป็นสิทธิและเสรีภาพของปัจเจกชนหรือบุคคล-ใน-ชุมชน   หา
                 ใช่บุคคลโดด ๆ ในสุญญากาศหรือเป็นตัวตนสัมบูรณ์ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้



                 การสร้างสถาบันและเครือข่าย

                        สิ่งที่กล่าวมาย่อมบ่งชี้ถึงความจ าเป็นที่จะต้องมีวิถีคิดใหม่เกี่ยวกับสถานการณ์และมิติของสิทธิ

                 มนุษยชนในโลกยุคโลกาภิวัตน์  ดังนั้นนอกเหนือไปจากการด าเนินภารกิจตามที่กฎหมายบัญญัติ  ซึ่งก็
                                                                         
                 คงจะคล้ายคลึงกันในทุกประเทศโดยสอดคล้องกับหลักการปารีส   กสม. ยังต้องค านึงถึงสภาพการณ์ที่
                 แปรเปลี่ยน กับทั้งความมุ่งหวังในเสรีภาพของประชาชนที่ทวีสูงขึ้น   ดังได้กล่าวแล้วถึงความมุ่งมั่นของ

                 กสม. ที่จะมีบทบาทเชิงรุกและเสริมสร้างในฐานะองค์กรสนับสนุนการเรียนรู้ทางสังคม โดยวางตนเป็น
                 ส่วนเสี้ยวหนึ่งของสังคม มิได้แยกเป็นเอกเทศ  ในการนี้ กสม. มองตนเองในฐานะที่บูรณาการเข้าเป็น

                 ส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้าง สถาบันทางสังคม   นี้ย่อมมิใช่เพื่อประโยชน์ของ กสม. เองในฐานะ
                 องค์กรอิสระ แต่เพื่อจุดหมายสูงสุดในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมและประชาชนไทยทั้งมวล

                 ในอันที่จะพัฒนาบนเส้นทางแห่งเสรีภาพและความก้าวหน้าร่วมกัน   หากสิ่งที่เรียกว่าการสร้าง
                 “วัฒนธรรมสิทธิมนุษยชน”    จะมีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็คงหมายถึงความข้อนี้  ประเด็นนั้นอยู่

                 ที่ว่าจะสร้างความรู้สึกผูกพันต่อกันระหว่าง กสม. กับสาธารณชนในวงกว้างได้อย่างไร   ด้วยเหตุนี้ในขั้น
                 เริ่มต้น  เราจึงให้ความส าคัญอย่างยิ่งต่อแนวทางในการจัดตั้งองค์กรของ กสม.โดยสัมพันธ์เชื่อมโยงกับ

                 สังคม  วิถีทางที่ดีที่สุดประการหนึ่งได้แก่การจัดระบบปฏิบัติการทั้งหมดโดยอาศัยการสร้างเครือข่ายแบบ
                 หลายระดับชั้น

                        แนวคิดหลักอยู่ที่การจัดตั้งกระบวนการจัดองค์กรภายในให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ประชาชน

                 จากทุกวงการสามารถเข้าร่วมได้   ภารกิจในการส่งเสริมคุ้มครองสิทธิมนุษยชนนั้นไม่ควรปล่อยให้ตกอยู่
                 กับกลไกราชการแต่สถานเดียว  หากเป็นเช่นนั้นเท่ากับบั่นทอนความมุ่งมั่นที่จะท าให้กสม. มีลักษณะ

                 เป็น สถาบันเปิดส าหรับการเรียนรู้ทางสังคม ต้องล้มเหลว   การสร้างเครือข่ายในระดับชั้นแรกนับว่าลง
                 ตัวพอสมควร อย่างน้อยก็ส าหรับขั้นเริ่มต้นนี้  ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น “กลไกประสานไตรภาคี”

                 ประกอบด้วย  คณะกรรมการฯ  ส านักเลขาธิการคณะกรรมการฯ  และพลเมือง  ภาคีที่เอ่ยหลังสุดแต่
                 มิได้หมายความว่าส าคัญน้อยที่สุดนี้  ประกอบด้วยบุคคลซึ่งถือว่าเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน จาก

                 ชุมชนวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน กลุ่มประชาสังคม ผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร หรือกลุ่มวิชาชีพหรือผู้



                 
                   หลักการปารีส (The Paris Principles) คือ หลักการของสหประชาติว่าด้วยสถานภาพและบทบาทของสถาบันระดับชาติ ที่มีอ านาจหน้าที่ใน
                 การคุ้มครองส่งเสริมสิทธิมนุษยชน  หลักการดังกล่าวเป็นผลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการที่กรุงปารีส เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1991 และ
                 รับรองโดยสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1993


                                                            ๘
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15