Page 35 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 35
ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 9
รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
๒.๑.๒ อำานาจหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒
อำานาจหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามมาตรา ๑๕ ที่
เกี่ยวข้องโดยตรงกับการร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก มีอยู่ ๓ ประการ ดังนี้
๑) อำานาจหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพและการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน
ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ ตามมาตรา ๑๕ (๑)
๒) อำานาจหน้าที่ในการตรวจสอบและรายงานการกระทำาหรือการละเลยการ
กระทำาอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรืออันไม่เป็นไปตามพันธกรณี
ระหว่างประเทศ เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี และเสนอ
มาตรการการแก้ไขที่เหมาะสมต่อบุคคลหรือหน่วยงานที่กระทำาหรือละเลย
การกระทำาดังกล่าวเพื่อดำาเนินการ ในกรณีที่ปรากฏว่าไม่มีการดำาเนินการ
ตามที่เสนอ ให้รายงานต่อรัฐสภาเพื่อดำาเนินการต่อไป ตามมาตรา ๑๕ (๒)
ซึ่งบัญญัติไว้เช่นเดียวกับบทบัญญัติ มาตรา ๒๕๗ วรรคหนึ่ง (๑) ของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
๓) อำานาจหน้าที่ในการเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย
กฎ หรือข้อบังคับ ต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี เพื่อส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชน ตามมาตรา ๑๕ (๓) ซึ่งสอดคล้องกับบทบัญญัติมาตรา ๒๕๗
วรรคหนึ่ง (๕) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
๒.๑.๓ ขอบเขตอำานาจหน้าที่ : พันธกรณีระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่
ประเทศไทยเป็นภาคี
เนื่องจากขอบเขตอำานาจหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตาม
ข้อ ๒.๑.๑ และข้อ ๒.๑.๒ ประการหนึ่ง คือ อำานาจหน้าที่ในการตรวจสอบและรายงานการกระทำา
หรือการละเลยการกระทำาอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรืออันไม่เป็นไปตามพันธกรณีระหว่าง
ประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี ข้อพิจารณาที่ว่าอะไร คือ “พันธกรณีระหว่าง
ประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี” นั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมี
ข้อพิจารณา ดังนี้
หลักการทั่วไปในการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี
หลักการทั่วไป คือ รัฐมีพันธกรณีที่จะต้องรับผิดชอบเบื้องแรกที่จะต้องเคารพและประกัน
สิทธิมนุษยชนที่ปรากฏในสนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคีให้เป็นจริง โดยรัฐจะต้อง
ป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธิดังกล่าวของบุคคลใดๆ ที่อยู่ในเขตอำานาจรัฐ ในกรณีที่จำาเป็นต้องใช้
เวลาในการดำาเนินการเพื่อให้สิทธิบางประการได้รับการประกันอย่างแท้จริง เนื่องจากรัฐมีทรัพยากร
จำากัด โดยเฉพาะสิทธิที่ปรากฏในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และ

