Page 19 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 19

ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก (17)
                                                               รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ






                     กิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงเพียง ๑๑ รายการ  ทำาให้มีโครงการหรือ

                     กิจการอีกจำานวนมากที่อาจเกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ไม่เข้าข่ายต้องดำาเนินการจัดทำา
                     รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม  และให้องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

                     ให้ความเห็นประกอบก่อนมีการดำาเนินการดังกล่าว  โดยไม่ปรากฏคำาอธิบายที่ชัดเจนให้สาธารณชน
                     ได้รับทราบถึงเหตุผลที่ไม่ดำาเนินการให้เป็นไปตามข้อเสนอของคณะกรรมการสี่ฝ่าย  การดำาเนินการ

                     ในเรื่องนี้จึงขาดความโปร่งใส ไม่สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล

                            นอกจากนี้  นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๕๐
                     เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๐ จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยองค์การอิสระ
                     ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ  ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง  ประกอบกับการที่รัฐบาลยังมุ่งที่จะพัฒนา

                     อุตสาหกรรมเพื่อนำาไปสู่ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ทำาให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน

                     มาบตาพุดในด้านต่างๆ ได้แก่ ชุมชนได้รับมลพิษเพิ่มขึ้นโดยขาดการควบคุมที่รอบคอบ ชุมชนมี
                     ความเสี่ยงต่ออันตรายจากอุบัติภัยของโรงงานเพิ่มขึ้น  การประกอบอาชีพเกษตรกรรมและประมง
                     ของชุมชนได้รับผลกระทบ ชุมชนไม่ได้รับทราบข้อมูลของโรงงานที่ครบถ้วน เป็นต้น  ทั้งนี้ เนื่องจาก

                     กระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) และ

                     การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (Health Impact Assessment : HIA) ยังมีช่องว่างและปัจจัย
                     หลายประการที่ยังไม่เป็นหลักประกันอย่างเพียงพอในการคุ้มครองสิทธิของชุมชน  ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
                     ความพร้อมของเจ้าของโรงงานในการจัดจ้างนักวิชาการทำา EIA/HIA  ประชาชนขาดความรู้ความ

                     เข้าใจเกี่ยวกับ EIA/HIA จึงขาดข้อมูลในการเรียกร้องสิทธิ  อีกทั้งสาระของ EIA/HIA ยังขาด

                     รายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเยียวยาความเสียหาย ในที่สุดการทำา EIA/HIA จึงกลายเป็นเงื่อนไข
                     ในการออกใบอนุญาตให้ดำาเนินโครงการหรือกิจการที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทำาให้เห็นว่า
                     รัฐบาลยังละเลยเพิกเฉยต่อการเคารพ ปกป้อง และดำาเนินมาตรการที่จำาเป็นและเพียงพอที่จะทำาให้

                     สิทธิชุมชน ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๕๐

                     ปรากฏผลที่เป็นจริง

                            จากปัญหาดังกล่าว  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงมีข้อเสนอแนะในภาพรวม

                     ระดับประเทศ เพื่อให้เกิดการคุ้มครองสิทธิชุมชน ตามมาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของ
                     รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ โดยมีสาระสำาคัญ ดังนี้

                            ๑.  รัฐบาลต้องปฏิบัติหน้าที่ตามพันธกรณีในการเคารพ (Obligation to Respect) สิทธิชุมชน

                                ๑.๑  ข้อพิจารณาเชิงเนื้อหา

                                      ๑)  ทบทวน ปรับปรุงแก้ไขประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
                                         ฉบับลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓  ให้ครอบคลุมประเภทโครงการต่างๆ

                                         ที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24