Page 53 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 53
52 แดศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน
(2) นวนิยายไตรภาคชุดนี้ได้ประมวลประเด็นที่หลากหลายในวิถีชีวิตของเกย์เอาไว้อย่างครบถ้วน
เป็นต้นว่า ปัญหาเรื่องการเปิดเผยตัวตน แรงกดดันจากสังคมรักต่างเพศ ที่สอดรับกับวรรณกรรมเกย์โดย
นักเขียนคนอื่นๆ นอกจากนั้นผู้เขียนยังชี้ให้เห็นการบรรจบกันระหว่างเพศวิถีกับชนชั้น วิถีบริโภค และวิถี
เมืองของเกย์ ปัญหาเรื่องความรัก ความเป็นมนุษย์ และการให้ความสําคัญแก่วาทกรรมพุทธศาสนา ซึ่งทํา
ให้นวนิยายชุดนี้ผูกอยู่กับบริบทสังคมไทยอย่างแน่นแฟ้น จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นตัวแทนของการปะทะกันใน
หมู่วาทกรรมหลายชุดที่เกี่ยวของสัมพันธ์กับเกย์ไทย
มีงานวิจัยจํานวนหนึ่งที่ศึกษานวนิยายไตรภาคชุดนี้ของวีรวัฒน์ กนกนุเคราะห์ มีทั้งที่ศึกษาเฉพาะ
เล่ม และศึกษาร่วมกับวรรณกรรมเกย์เรื่องอื่นๆ ที่ร่วมสมัยกัน สมเกียรติ คู่ทวีกุล (2545) ศึกษาเรื่อง “ภาพ
สะท้อนชายรักร่วมเพศในนวนิยายไทยสามรอบทศวรรษ (พ.ศ.2513-2543): การศึกษาศักยภาพ ข้อจํากัด
และทางออกของนักเขียนหญิง” งานวิจัยเรื่องนี้เปรียบเทียบนวนิยายของนักเขียนหญิงที่มีตัวละครชายรักชาย
จํานวน 24 เรื่อง กับนวนิยายของนักเขียนชายที่มีตัวละครประเภทเดียวกันจํานวน 8 เรื่อง โดยมีนวนิยาย
เรื่อง ซากดอกไม้ รวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ผลการวิจัยพบว่าภาพสะท้อนชายรักชายของนักเขียนหญิงมีคุณค่าใน
การเลียนแบบชีวิตน้อยกว่างานเขียนนักเขียนชาย ทําให้ผู้อ่านไม่รู้จักชีวิตของคนกลุ่มนี้อย่างถ่องแท้ งานวิจัย
ของสมเกียรติมองชายรักชายในวรรณกรรมผ่านมุมมองแบบสัจนิยม งานวิจัยดังกล่าวก่อให้เกิดปริญญานิพนธ์
ของ อรรถวุฒิ มุขมา (2546) เรื่อง “นวนิยายชายรักร่วมเพศเรื่อง ‘ซากดอกไม้’ ของวีรวัฒน์ กนกนุเคราะห์:
การศึกษาเชิงวิเคราะห์” ผู้วิจัยสืบทอดการจัดกลุ่มนวนิยายเรื่องนี้ให้เป็นวรรณกรรมสัจนิยมจากงานของ
สมเกียรติ ผ่านการวิเคราะห์องค์ประกอบวรรณกรรมอย่างละเอียด ทําให้มองเห็นลักษณะเฉพาะของนวนิยาย
เรื่องนี้ โดยผู้วิจัยพยายามแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างวรรณกรรมกับสังคมที่ชัดเจน
พิเชฐ แสงทอง (2546) เขียนบทความเรื่อง “ร่างกาย ร่างเกย์” ผู้เขียนวิเคราะห์แนวโน้มของ
วรรณกรรมเกย์จํานวนหนึ่ง โดยกล่าวถึงเรื่อง ซากดอกไม้ และ ด้ายสีม่วง ในฐานะตัวแทนของวรรณกรรมเกย์
ยุคหลังทศวรรษ 2540 เป็นต้นมา พิเชฐเสนอว่าวรรณกรรมเกย์ยุคหลัง 2540 เป็นยุคที่เกย์เปิดเผยตัวตน ทํา
ให้ครอบครัวของเกย์แตกสลายมีการหย่าร้าง ตัวละครเกย์ในวรรณกรรมยุคนี้หันมา “สร้างร่าง” ผ่าน
วัฒนธรรมการออกกําลังเพื่อร่างที่สมบูรณ์แบบ พิเชฐเห็นว่าการที่วรรณกรรมเกย์ไม่นิยมสร้างตัวละครที่
อัปลักษณ์ตอกย้ําว่าร่างกายแบบเกย์เป็นสิ่งที่วาทกรรมเกย์ผลิตขึ้นมาเพื่อตอบสนองการบริโภคการร่วมรัก
เท่านั้น ไม่ใช่ร่างกายที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพิ่มศักยภาพในการผลิตทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ ดังที่
ร่างกายในวัฒนธรรมบริโภคนิยมทํากันทั่วไป พิเชฐกล่าวว่าลักษณะดังกล่าวทําให้วงจรชีวิตของเกย์สัมพันธ์อยู่
กับกลุ่มเกย์ด้วยกันมากกว่าที่จะสัมพันธ์กับสังคมภายนอก ศักยภาพของเกย์ที่วรรณกรรมเหล่านี้แสดงออกคือ
ศักยภาพทางเพศ มากกว่าศักยภาพเชิงสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง