Page 51 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 51
50 แดศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน
ใจรักแนะนําให้จอมขวัญส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าของตนเอง โดยเสนอให้ว่าจ้างโตโต้
คเชนทร์ จากบริษัทโฆษณาและทศนนท์มาช่วยดูแลให้ โตโต้หวังในตัวคเชนทร์ แต่คเชนทร์ไม่สนใจ เขานิยม
ไปซาวน่า และได้มีสัมพันธ์กับวันฉัตรคนที่เขานึกรัก แต่วันฉัตรมี “ผู้อุปการะ” อยู่แล้วถึงสองคน ท้ายที่สุด
คเชนทร์เป็นฝ่ายต้องผิดหวัง
ใจรักแนะนําให้จอมขวัญรู้จักกับนพปฎล ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์จนกระทั่งจอมขวัญแต่งงานใหม่
อีกครั้ง จนกระทั่งถึงวันที่จอมขวัญได้รู้ว่านพปฎลเป็นชายรักชาย เธอจึงประสบอุบัติเหตุตกจากเก้าอี้จนเป็น
อัมพาต
อีกชุดความสัมพันธ์หนึ่งที่สําคัญในนวนิยายเรื่องนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างปฤงคพผู้มีอาชีพเป็น
เภสัชกรกับวินไท วินไทเป็นเด็กหนุ่มที่ต้องการใช้เสน่ห์ทางเพศของตนล่อลวงบุคคลอื่นให้ทําตามใจปรารถนา
ของเขา ปฤงคพมีคนรักอยู่แล้วคือมิ้นท์ ทั้งสองคนมีปัญหากันเพราะวินไท ปฤงคพไม่ยอมเลือกใครคนใดคน
หนึ่ง ในปลายเรื่องปฤงคพต้องตัดใจจากวินไท และกลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับมิ้นท์
ห่วงจําแลง อันเป็นภาคสุดท้ายในไตรภาคมีโครงเรื่องย่อยไม่กระจัดกระจายเท่า ด้ายสีม่วง ห่วง
จําแลง ว่าด้วยเรื่องของเขตพิภพ อาจารย์และทันตแพทย์หนุ่มผู้มีภาพชีวิตสมบูรณ์แบบ ทั้งสถานะทาง
เศรษฐกิจ สังคม และการมีคู่สัมพันธ์จํานวนมากทั้งชายหญิง เขตพิภพได้พบกับลอยควัน เด็กหนุ่มจากชนชั้น
ล่างที่พยายามจะเลื่อนชั้นทางสังคมขึ้นมา คนทั้งสอง “รักๆ เลิกๆ” กันอยู่หลายครั้ง ลอยควันตักตวง
ประโยชน์จากคู่สัมพันธ์ของตนทุกคน โดยเขาไม่รู้ว่าเพื่อนรักของเขาคอยริษยาอยู่ ต่อมาลอยควันได้พบกับ
ล่าฌายน์ หรือนิดหนึ่งลูกชายของชาติชาครีต์กับจอมขวัญที่โตขึ้นมา ลอยควันเริ่มเข้าสู่วงการค้าสินค้าผิด
กฎหมายโดยการชักนําของล่าฌายน์ ตอนปลายเรื่องล่าฌายน์ติดเชื้อเอดส์ ผู้เขียนกําหนดให้มีตอนจบสาม
แนวทาง แนวทางที่หนึ่งล่าฌายน์เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ แนวทางที่สองล่าฌายน์ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด ส่วน
แนวทางที่สามหลังจากที่จอมขวัญเสียชีวิตแล้วล่าฌายน์ก็ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด ทั้งนี้ ห่วงจําแลง ยังเล่าถึง
ชีวิตของสมคะเน เกย์ชาวนครปฐมที่มีความขัดแย้งกับพ่อและมาใช้บริการซาวน่าเสมอในยามที่เกิดอารมณ์
ปรารถนา จนในที่สุดเขากลายเป็นผู้รับเชื้อเอดส์ โรคร้ายที่มากระทบชีวิตเขาทําให้เขาได้คืนดีกับพ่อ และมี
ชีวิตที่ยืนยาวต่อไปได้ในฐานะมนุษย์ที่ทําประโยชน์ให้แก่สังคม
นวนิยายไตรภาคชุดซากดอกไม้มีความสําคัญต่อพัฒนาการวรรณกรรมเกย์ของไทย สืบเนื่องจาก
บริบทสังคมที่นวนิยายชุดนี้เกิดขึ้นมาระหว่าง พ.ศ.2539-2551 เวลากว่าทศวรรษช่วงนั้นได้มีปรากฏการณ์
ทางสังคมหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเกย์และชนกลุ่มน้อยทางเพศ เนื่องจากในช่วงปี พ.ศ. 2540 รัฐธรรมนูญ
ฉบับประชาชนได้ประกาศใช้ ทําให้บรรยากาศของความเชื่อมั่นในสิทธิและเสรีภาพของคนในสังคมเข้มข้น
มากยิ่งขึ้น และในช่วงปี พ.ศ.2539 สภาสถาบันราชภัฏได้ประกาศไม่รับบุคคลที่เป็นชนกลุ่มน้อยทางเพศเข้า
ศึกษาในสาขาครุศาสตร์ ทําให้องค์กรทางสังคมจํานวนมากออกมาเคลื่อนไหว ใน พ.ศ. 2542 กรมประชาสัมพันธ์