Page 32 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 32

วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา   31



                     ตราว่าเป็นของเก่าและถูกผลักไสให้มาอยู่ในนาครเขษม ผู้เขียนกล่าวว่า “เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของนาคร
                     เขษม เหมือนกับร้านขายของเก่าที่ของทุกชิ้นในร้านเป็นของเก่าทั้งนั้น” (คอยนุช, 2549: 30) ความหวาดกลัว

                     หวั่นวิตก หดหู่ ซึมเศร้า เป็นอาการซึ่งบ่งบอกถึง ประสบการณ์ความทุกข์ของคนวัย 40  ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ
                     ของสังคมเมืองทุนนิยมอีกต่อไป

                            การเข้าสู่วัย 40 จึงไม่เป็นเพียงการเข้าสู่วัยเกษียณสําหรับตัวละครในนาครเขษม หากยังเป็นเสมือน

                     ตราบาปที่บ่งบอกว่าตัวละครเหล่านี้เป็น “คนแก่” และเป็น “ของเก่าที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว” ดังนั้นตัวละคร
                     เหล่านี้ที่เคยเป็นพนักงานออฟฟิศและคุ้นชินกับวิถีชีวิตในเมืองหลวงจึงรู้สึกว่าชีวิตของตนว่างเปล่า ไร้

                     ความหมาย เมื่อถูกผลักไสออกจากสังคมเมืองหลวงตัวละครเหล่านี้เดินทางมายังนาครเขษมเพื่อตามหาสิ่งที่
                     หายไป เพื่อกลับไปดํารงชีวิตเป็น “ปกติ” เหมือนอย่างเคย สิ่งที่วิชัยตามหาในนาครเขษมคือความหวัง “ให้

                     อวัยวะเพศ...กลับมาทําหน้าที่เหมือนปกติ” (คอยนุช, 2549: 62) (เน้นข้อความโดยผู้เขียนบทความ) น้าปรีชา
                     ยังคงตามหาเอกสารหน้า 23 ที่หายไป ถึงแม้ว่าน้าปรีชาจะออกจากการเป็นพนักงานและมาอยู่ในนาครเขษม

                     แห่งนี้แล้วก็ตาม การที่น้าปรีชาหาเอกสารหน้า 23  ไม่เจอเป็นความบกพร่องจนทําให้กลายเป็นที่สังเกต การ
                     หาเอกสารที่หายไปกลับคืนมาจึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้น้าปรีชากลับมาเป็นคนกลางๆ เหมือนเดิมได้ ฝ่ายคุณดํารง

                     แม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่ในนาครเขษมแห่งนี้มานานแล้ว แต่คุณดํารงยังคงทําตัวไม่ว่างและบอกกับทุกคนที่พบ
                     เจอว่า “คุณยังพอมีเวลาว่างอีกไหม ผมจะเล่าให้ฟังว่าชีวิตผมมันยุ่งขนาดไหน” (คอยนุช, 2549: 58) ขณะที่
                     คุณอนันต์ยังคงเขียนจดหมายสมัครงานเพื่อที่ว่าจะไม่ต้องมายังนาครเขษมแห่งนี้ คุณอนันต์ยังมีคําพูดติดปาก

                     ว่า “ไม่อยากอยู่กรุงเทพฯ เลย อยากมีบ้านเล็กๆ ที่บ้านนอก” ซึ่งเป็นคําพูดที่ “คนที่ทํางานอยู่เท่านั้นถึงจะมี
                     สิทธิพูด” ประโยคดังกล่าว ส่วนคุณนิตยาก็เดินทางมายังนาครเขษมเพื่อทําสิ่งที่เธอไม่เคยทํามาก่อน คือ การ

                     ขายกาแฟ ส่วนหญิงสาวที่มีฝ้ารูปแอฟริกาปรากฏบนใบหน้าตามหาตัว “ฟ” ที่หายไปจากแป้นพิมพ์ดีด

                            ในโลกภายนอกนาครเขษม       ตัวละครเหล่านี้ถูกตัดสินว่าเป็นของเก่า ชํารุด ขาดตกบกพร่อง

                     “แป้นพิมพ์ดีดที่ไม่มีตัว ฟ” “เอกสารหน้า 23 ที่หายไป” “อวัยวะเพศที่ไม่สามารถทํางานตามปกติ” สิ่งเหล่านี้
                     เป็นสัญลักษณ์ของความล้มเหลว ความขาดตกบกพร่อง ความชํารุดเสื่อมโทรม ซึ่งเป็นสาเหตุให้ตัวละคร

                     เหล่านี้ถูกผลักไสมาอยู่ในนาครเขษม  การตามหาสิ่งที่หายไปของตัวละครเหล่านี้เท่ากับเป็นการกอบกู้ตัวตน
                     และความปรารถนาของตัวละครเหล่านี้ให้กลับคืนมาเป็น “ปกติ” เหมือนเดิมอีกครั้ง


                            ความพยายามของตัวละครในการตามหาสิ่งที่สูญหายไปจึงเป็นการปฏิเสธความหมายที่สังคมยัดเยียด
                     ให้พวกเขาเหล่านี้ว่า วัย 40  เป็นวัยของคนแก่ ใช้การการไม่ได้ หรือหมดสภาพ ด้วยการบอกตนเองและผู้อื่น
                     ว่าเขายังคงไม่ว่าง ร่างกายไม่ได้เสื่อมสมรรถภาพ หรือยังต้องการทํางานอยู่ ปฏิกิริยาของชาวนาครเขษมต่อ

                     อคติของสังคมในเรื่องอายุไม่ต่างจากปฏิกิริยาของกลุ่มเควียร์ต่ออคติของสังคมในเรื่องเพศ วอร์เนอร์
                     (Warner, 1999: 60) เสนอว่าความอับอายเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเควียร์เนื่องมาจากสังคมที่ยึดถือ
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37