Page 146 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 146

๕
        บทที่






                    ๔) เกิดจากการใช้ระเบียบ ข้อบังคับ และ กฎหมาย รวมถึงช่องโหว่ของกระบวนการยุติธรรม
              ของผู้บังคับบัญชา ที่เลือกปฏิบัติและไม่เป็นธรรม
                    การละเมิดสิทธิของคนทำงานภาครัฐทั้ง ๒ ส่วนดังกล่าวล้วนเกิดจากนโยบายของรัฐในเรื่อง
              การจ้างงานที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายภาครัฐลง และเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนให้เข้ามาดำเนินการแทน
              นโยบายดังกล่าวได้ส่งผลร้ายแรงก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิแรงงานและสิทธิมนุษยชนต่อคนรุ่นใหม่
              ดังนั้น คณะอนุกรรมการ ฯ จึงมีข้อเสนอการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบายต่อรัฐบาล มีสาระสำคัญ ดังนี้

              	     ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

              
     ๑. การจ้างเหมาแรงงานในหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ รัฐบาลต้องคำนึงถึงหลักการการ
              คุ้มครองสิทธิแรงงานที่สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ โดยงานที่มีคุณค่าอย่าง
              เดียวกันจะต้องได้รับการปฏิบัติในการจ้างงานที่เท่าเทียมกัน หรือไม่เกิดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็น
              ธรรม และต้องมีหลักประกันความมั่นคงในการทำงานของคนทำงานในระยะยาวด้วย
                    ๒. ให้รัฐบาลยุติการดำเนินการเพื่อแปรรูปรัฐวิสาหกิจไปเป็นของเอกชน รวมทั้งการให้เอกชน
              มาร่วมลงทุนในรัฐวิสาหกิจในรูปแบบต่าง  ๆ  หากจำเป็นต้องให้เอกชนมาร่วมทุนหรือลงทุนกับ
              รัฐวิสาหกิจ  รัฐบาลต้องกำกับดูแลเพื่อมิให้รัฐต้องเสียประโยชน์  และต้องควบคุมราคาเพื่อมิให้
              ประชาชนต้องรับภาระเกินความจำเป็นต่อการครองชีพในปัจจุบัน

                    ๓. ในกรณีที่จะมีการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีผลกระทบต่อสิทธิและความมั่นคงในการ
              ทำงานของพนักงาน จะต้องมีการแจ้งข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้อง มีหลักเกณฑ์ที่โปร่งใสเป็นธรรม โดยยึด
              หลักธรรมาภิบาล และต้องให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการจนสิ้นสุด
              ตลอดจนต้องคำนึงถึงหลักประกันเรื่องสิทธิและประโยชน์ของพนักงานเป็นสำคัญ
                    ๔. รัฐบาลต้องให้ความสำคัญต่อการกำกับดูแลสภาพการจ้างของคนทำงานในรัฐวิสาหกิจโดย
              เสมอภาค  ไม่มีการเลือกปฏิบัติในระหว่างรัฐวิสาหกิจด้วยกัน  และหากรัฐจำเป็นต้องแปรสภาพ
              รัฐวิสาหกิจ  ก็ควรออกกฎหมายหรือกำหนดกฎเกณฑ์ให้ชัดเจน  และดำเนินการตามกฎหมายหรือ
              กฏเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
                    ๕. รัฐบาลต้องกำหนดค่าชดเชยพิเศษนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายคุ้มครองแรงงานอย่าง

              เหมาะสม หากต้องเลิกจ้างคนทำงานในรัฐวิสาหกิจเพราะผลจากการแปรสภาพ โดยคำนึงถึงภาวะการ
              ครองชีพและโอกาสการมีงานทำใหม่เป็นสำคัญ เพื่อให้พนักงานรัฐวิสาหกิจที่ถูกเลิกจ้างจากกรณีดังกล่าว
              รู้สึกถึงความคุ้มค่าต่อการทำงานให้กับรัฐวิสาหกิจที่ผ่านมา และมีขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป
                    ๖. รัฐบาลต้องรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ ๘๗ และฉบับที่ ๙๘
              เพื่อเป็นหลักประกันการรวมตัว การเจรจาต่อรองของคนทำงานภาครัฐทุกประเภท
                    ๗. ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยแรงงานทุกฉบับ และแก้ไขกฎหมาย
              เกี่ยวกับราชการและหน่วยงานของรัฐรูปแบบต่างๆ ให้คุ้มครองและครอบคลุมถึงคนทำงานภาครัฐ

              ทุกประเภท  และให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พ.ศ.  ๒๕๕๐  รวมทั้งกติกา
              ระหว่างประเทศ และอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ


        ๑๔๖  สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน





     Master 2 anu .indd   146                                                                     7/28/08   9:06:08 PM
   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151