Page 86 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 86

มีมาตั้งแต่ปี 2540 ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2547 เกิดการก่ออาชญากรรมครั้ง
                                 ใหญ่ในประเทศไทย คือ การฆ่าตัดตอน หรือการฆาตกรรมอำพราง มีคนถูก
                                 ฆ่าด้วยน้ำมือของเจ้าพนักงานอย่างผิดกฎหมาย ถึง 2,500 ศพ ตามข้อมูล
                                 ในข้อเท็จจริงอาจจะเกือบถึง 5,000 ศพ … ที่จะละเมิดสิทธิเสรีภาพของ
                                 ประชาชนได้มาก ๆ มี 2 หน่วยงาน คือ ตำรวจกับทหาร … กสม. ไม่ได้มีการ
                                 ขยับอะไร” (สนทนากลุ่มภายนอก, 26 มกราคม 2565 )

                                      “หลายคนอาจจะพูดว่ากสม.ไม่มีดาบฟันไม่ได้ คิดว่ากสม.ต้อง
                                 เรียกร้องตัวเองด้วย บทบาทควรจะมีเพิ่มมากขึ้นเพื่อที่จะมาปกป้องนักสิทธิ
                                 นั้น ไม่อย่างนั้น จะมีกสม.ไว้ทำไม มากินเงินเดือนภาษีประชาชนหรือเปล่า
                                 เป็นองค์กรอิสระเป็นองค์กรที่ประชาชาพึ่งพาไม่ได้ก็อย่ามี เสียภาษีของ
                                 ประชาชนไปอย่างนี้ ” (สนทนากลุ่มคนนอก,  26 มกราคม 2565)

                           บทบาทของกสม. จะต้องทำให้เป็น Powerless become to powerful
                                      “... มีโอกาสได้เข้าไปดูกรณีของเด็กถูกครูและรุ่นพี่ล่วงละเมิด ทาง
                                 เพศ 5 คน ตอนนี้คดียังอยู่   ที่ศาลและเด็กยังอยู่ในการคุ้มครองพยานที่
                                 กองคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ … จริง ๆ กสม. ต้องไปเยี่ยม …แต่เราไม่เห็น
                                 การเคลื่อนไหว (movement) … กสม. จะต้องทำให้เป็น Powerless
                                 become to   powerful …ต้องเป็นไปเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง”
                                 (สนทนากลุ่มภายนอก, 26 มกราคม 2565 )

                           เสียงสะท้อนแสดงความผิดหวังใน กสม.และความรู้สึกว่ากสม.ไม่สามารถเป็นองค์กรที่
                    พึ่งพาได้ โดยเฉพาะเสียงสะท้อนจากครอบครัวผู้โดยละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

                                      “… จริงๆ ยังแอบหวังและให้กำลังใจ เพราะว่าเราประสานความ
                                 ร่วมมือกันมาตลอด แต่ว่ากสม. ต้อง Action มากกว่านี้ … เรารู้สึกว่าการ
                                 ออกมา Action ของกสม. มันยังช้าไปมาก คุณเป็นความหวังของเรา แต่
                                 ท้ายสุด คือ คุณไม่ได้ทำหน้าที่นั้นอย่างเต็มที่” (สนทนากลุ่มภายนอก วันที่
                                 26 มกราคม 2565)

                                      “ช่วง กสม. ชุดที่สาม ข้อร้องเรียนในการละเมิดสิทธิของกสม ลดลง
                                 ไปเยอะ อาจจะเป็นตัวชี้วัดอันหนึ่ง เพราะสมัยอาจารย์เสน่ห์มี (ข้อร้องเรียน)
                                 เยอะมาก โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์กรณีฆ่าตัดตอนปี 2546และกรณีกรือ
                                 เซะตากใบ 2547 รายงานร้องเรียนเรื่องสิทธิมนุษยชนมากันหลายพันคนจน
                                 อนุกรรมการตรวจสอบทำไม่ไหว ในช่วงหลังหลังแค่หลักร้อยเรื่องของตรงนี้
                                 อาจจะเป็นตัวชี้วัดอีกตัวหนึ่งว่าประชาชนอาจจะไม่รู้สึกว่า กสม เป็นที่พึ่ง ที่
                                 หวังของเขาได้อีกต่อไปเพราะฉะนั้นภารกิจที่ท้าทายของ กสม” ( สัมภาษณ์
                                 KI006,14 พฤศจิกายน 2564)

                                      “ตอนนั้นช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่รู้จะเริ่มอย่างไร จะทำอะไร
                                 ดี มีคนมาบอกว่าจะช่วยประสานให้  เราก็รอโทรศัพท์ คนที่โทรมาคนแรก
                                 เลยคือพี่กุ้ย ประชาไท เขาบอกให้ใจเย็นๆ และพยายามเผยแพร่ และติดต่อ



                                                            -79-
   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91