Page 78 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 78

ทำงานปกป้องสิทธิของผู้หญิงและเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรงใน
                                 ครอบครัว และถูกล่วงละเมิดทางเพศ” (สัมภาษณ์ KI010, 20 พฤศจิกายน
                                 2564)


                    ประสบการณ์การทำงาน
                           เรื่องเล่าระหว่างทางในสนามการทำงานกับผู้ลี้ภัยนำมาสู่การตั้งคำถามต่อสังคมถึง
                    ความเห็นใจต่อชะตากรรมของเพื่อนมนุษย์ และประสบการณ์การทำงานในหน่วยงานราชการกับ
                    ภาพที่เห็นในประเทศไทยจนชินตาอย่างภาพชาวบ้านมารอรับนาย เป็นส่วนหนึ่งของการจุดประเด็น
                    คำถามเรื่องอำนาจและความสัมพันธ์ในเชิงอำนาจ นำมาสู่การตั้งคำถามเรื่องความเสมอภาค ดัง
                    เรื่องเล่าต่อไปนี้

                                        “...เวลาที่เราฟังถึงความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นกับผู้ลี้ภัย ทำให้เราเริ่ม
                                 ตั้งคำถามกับสังคมมากขึ้น ไม่ใช่สังคมไทยอย่างเดียว แต่เป็นสังคมใน
                                 ภูมิภาค เราตั้งคำถามว่าทำไมมนุษย์ทำกับเพื่อนมนุษย์แบบนี้ ตอนไป
                                 (กัมพูชา)ครั้งแรกต้องเดินทางตอนกลางคืน เพราะเดินทางกลางวัน
                                 อันตราย เวลาที่เราจะส่งอาหารหรือส่งของให้ผู้ลี้ภัยต้องเป็นกลางคืน …
                                 ภาพที่เห็นคือแม่อุ้มลูกทารก ผู้หญิงคนนั้นนั่งร้องไห้อุ้มทารกและทารกคน
                                 นั้นเสียชีวิตแล้ว เขาร้องไห้ว่าไม่มีแผ่นดินแม้แต่ที่จะฝังลูก นึกออกไหมว่า
                                 เป็นภาพที่สะเทือนใจ และตั้งคำถามว่าทำไมถึงทำได้ขนาดนั้น และทุกอย่าง
                                 เกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์ นั่นเป็นคำถามที่เราตั้งกับสังคมโดยทั่วไป”
                                 (สัมภาษณ์, KI012, 16 พฤศจิกายน 2564)

                                        “เวลาที่ผมไปตรวจราชการ ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นแรงจูงใจที่ทำให้
                                 ผมเห็นความเหลื่อมล้ำ ความแตกต่าง ผมเดินตามผู้ตรวจไป ชาวบ้านก็มา
                                 นั่งรอ ในขณะที่ผมเป็นเด็ก อายุแค่ 20 กว่าเดินตามเขา แต่ชาวบ้านนั่งยอง
                                 ยองเพื่อมารอเหมือนเราเป็นเทพเจ้า ความรู้สึกผมแย่มากตอนนั้น ทำไมลุง
                                 กับป้าหรือคุณย่าคุณยายต้องทำขนาดนี้ ไม่เห็นต้องทำขนาดนั้น สมัยนั้น
                                 รู้สึกแบบนั้น ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าผมเป็นคนที่อยู่ข้างหน้า  ผมจะเรียกให้ลุกขึ้น
                                 อย่าทำแบบนี้ ผมคิดว่ามันเป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่ง ที่ผมเห็นว่า คนเรา
                                 มันไม่น่าจะแตกต่างกันแบบนี้ แล้วเวลาที่เรามารับราชการ เรารู้สึกว่า
                                 สโลแกนที่พูดถึงอยู่เสมอ คือข้าราชการคือผู้รับใช้ประชาชน แต่ในความ
                                 เป็นจริงทำไมประชาชนมานั่งยองและรับราชการ เดินผ่านไปแล้วก็ผมนี่ตัว
                                 งอเลยนะ คือพ่อแม่สอนมาว่า  มันไม่ใช่ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ แต่ว่ามัน
                                 คือวัฒนธรรมอะไรบางอย่างว่าคนเราเท่ากันแล้วเราต้องให้เคารพคน
                                 สูงอายุ  เห็นคนแก่มาก ๆ เลยผมนี่เดินตัวงออยู่คนเดียว… นั่นก็คือจุดที่ทำ
                                 ให้ผมรู้สึกว่าผมมีความฝังใจตรงนั้นแต่พอมาทำงานเรื่องสิทธิที่โอนมา ก็
                                 เลยรู้ว่าอันนี้แหละ เราอาจจะมี DNA ในบางอย่างเรื่องของความเสมอภาค
                                 คนเรามันเท่ากัน ก็เลยคิดว่าพอได้มาทำงานที่นี่มันก็ มีความเข้าใจเรื่อง
                                 สิทธิมากขึ้นเรื่องการเคารพสิทธิของมนุษย์มากขึ้น”  (สัมภาษณ์ IKI004,
                                 4 กุมภาพันธ์ 2565)





                                                            -71-
   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83