Page 76 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 76
บทที่ 4
เหลียวมองสองทศวรรษที่ผ่านมา
2 ทศวรรษที่ผ่านมาของสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย นับเป็นการเดินทางของสิทธิ
มนุษยชนที่อาจเต็มไปด้วยความก้าวหน้าในบางเรื่องเป็นบางช่วงในขณะเดียวกันก็มีการลดถอยลง
ของบางเรื่องเป็นบางจังหวะ ตามบริบทสถานการณ์ทางการเมืองที่สั่นไหวในประเทศ ในบทนี้
เหลียวมองสองทศวรรษที่ผ่านมาจะมีแก่นการนำเสนออยู่ที่เสียงสะท้อนของผู้อยู่ในแวดวงสิทธิ
มนุษชนของประเทศไทยต่อ กสม. โดยเริ่มต้นด้วยของแรงบันดาลใจ ของคนทำงานด้านสิทธิ
มนุษยชนทั้งภายในและภายนอก กสม. การบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์สิทธิมนุษยชนที่มาจาก
สถาบันการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน รวมไปถึงคนใน กสม.ที่มีความตั้งใจและความมุ่งมั่นใน
การเปลี่ยนแปลงในเชิงนโนบาย เหลียวมองถัดไปกับภาพการรับรู้ของกสม. ความไม่เป็นกลางและ
ไม่เป็นอิสระ การทำงานที่ล่าช้า และความไม่เชื่อมั่นต่อองค์กร เสียงสะท้อนสำคัญจากผู้ทำงานด้าน
สิทธิมนุษยชน ประสบการณ์การทำงานกับกสม. การเริ่มต้นสร้างเครือข่าย ไปจนถึงการที่เครือข่าย
เอาใจออกห่างกับการทำงานร่วมกับกสม. เสียงสะท้อนในสิ่งที่ กสม. ทำได้ดีและยังไม่ดีนัก การตั้ง
คำถามถึงการมีอยู่ของ กสม. รวมถึงเสียงสะท้อนสุดท้ายที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนของ
กสม. คือ เสียงสะท้อนต่อสำนักงาน กสม. และท้ายสุด บทสรุปต่อการก้าวต่อไปของ กสม. ที่ทั้ง
คนในและคนนอกอยากเห็น
ความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจ
“สิทธิมนุษยชนคือ การช่วยกันสร้างและประคับประคองความหวัง ให้เกิดขึ้นในสังคม”
(สัมภาษณ์ KI011, 18 พฤศจิกายน 2564)
การแสดงความคิดเห็นผ่านแบบสอบถาม การสนทนากลุ่ม และสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่า
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิทธิมนุษยชน ผู้บริหารกสม. มีแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นในการทำงานด้าน
สิทธิมนุษยชน เช่นเดียวกับในส่วนของพนักงานในส่วนสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติส่วนใหญ่เป็นทรัพยากรบุคคลที่เชื่อมั่นในหลักการสิทธิมนุษยชน แม้ว่าจะยังไม่ค่อยชัดเจน
นักว่า การทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในองค์กรใหม่ที่กำลังเริ่มต้นจะเป็นอย่างไร แต่พร้อมจะเปิดใจ
เรียนรู้และทดลองลงมือทำงานด้านนี้ ในขณะที่หลายคนมีความตั้งใจมุ่งมั่นและเลือกศึกษาเฉพาะ
ทางด้านสิทธิมนุษยชนมาตั้งแต่ต้น
เรื่องเล่าจากคนใน – คนนอก แสดงให้เห็นจุดเริ่มต้นที่ต่างกัน เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความ
ตั้งใจอย่างแรงกล้า (Passion) ในการทำงานด้านสิทธิมนุษยชน เริ่มต้นจากการบ่มเพาะใน
สถาบันอุดมศึกษา การออกค่าย โครงการมูลนิธิอาสาเพื่อสังคม (มอส.) ประสบการณ์การทำงาน
ที่ไม่ต้องการเห็นระบบ นโยบาย หรือสังคมที่กดขี่ ด้วยความหวัง (Hope) และความตั้งใจว่าจะ
สามารถเปลี่ยนแปลงสังคม (Change) ให้ดีขึ้น อย่างน้อยที่สุดคือการเห็นสังคมไทยมีการละเมิด
สิทธิมนุษยชนที่น้อยลงรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย สะท้อนว่าสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่การ
เอาชีวิตรอดเพียงแค่ตัวเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชีวิตของเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกด้วยเช่นเดียวกัน
-69-