Page 85 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 85
รายงานการศึกษาวิจัย
โครงการการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
มนุษยชนอาเซียนเองอีกด้วย ทั้งนี้ ประเด็นที่ส าคัญคือการจัดตั้งหน่วยงานภายในเพื่อให้สามารถส่งต่อองค์
ความรู้และพัฒนาศักยภาพขององค์กรในด้านกิจการอาเซียนได้อย่างต่อเนื่อง
2. การเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกสิทธิมนุษยชนของอาเซียนและของ
ประเทศสมาชิกในอาเซียนให้กับบุคลากร
ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียนและในประเทศสมาชิก
อาเซียนถือเป็นพื้นฐานส าคัญในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพของบุคลากรของ ส านักงาน กสม.
ในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการพัฒนามาตรฐานสิทธิมนุษยชนทั้งในระดับประเทศและ
ระดับภูมิภาค ทั้งนี้ ประเด็นที่ส าคัญเบื้องต้นคือความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนซึ่งยังมีความสับสนว่า
เป็นการรวมตัวเฉพาะเพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและการสร้างฐานการผลิตร่วมกันระหว่างประเทศ
สมาชิกเท่านั้น และยังขาดความตระหนักเกี่ยวกับประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนข้ามพรมแดนซึ่งมี
แนวโน้มที่จะเกิดความถี่และความรุนแรงมากยิ่งขึ้นภายใต้กรอบการรวมตัวทางเศรษฐกิจ (Economic
integration) ซึ่งมีการขจัดอุปสรรคในการเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิตต่างๆ และเอื้อให้ทุนและการจัดตั้ง
หน่วยธุรกิจสามารถด าเนินการได้ง่ายดายยิ่งขึ้น โดยมิจ าต้องกล่าวถึงสมรรถนะด้านการใช้ภาษาอังกฤษซึ่ง
เป็นภาษาทางการของประชาคมอาเซียน ซึ่งการพัฒนาความเข้าใจองคาพยพและการท างานของประชาคม
อาเซียน ผลกระทบ (ทั้งด้านบวกและลบ) จากการรวมตัวทางเศรษฐกิจและความสามารถในการใช้
ภาษาอังกฤษให้กับบุคลากรของ ส านักงาน กสม. นี้เป็นสิ่งที่สามารถและสมควรด าเนินการควบคู่กับ
การจัดตั้งคณะอนุกรรมการด้านอาเซียนที่ได้เสนอในหัวข้อก่อนหน้านี้
7.2 มุมมองและข้อเสนอแนะต่อบทบาทของประเทศไทยในการปฏิรูปสิทธิมนุษยชนใน
อาเซียน
นอกเหนือจากแนวทางการปฏิรูปสิทธิมนุษยชนที่สามารถด าเนินการได้ในระดับประเทศแล้ว
ประเทศไทยยังสามารถแสดงบทบาทโดยตรงในระดับภูมิภาคในด้านสิทธิมนุษยชนได้อย่างหลากหลาย โดย
ขอหยิบยกประเด็นที่ส าคัญเพื่อให้พิจารณาด าเนินการ ดังนี้
7.2.1 การปฏิรูปกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียน (Reform of ASEAN Human Rights
Mechanism)
การประกาศใช้กฎบัตรอาเซียนในปี พ.ศ. 2551 และก่อตั้ง AICHR ในปี พ.ศ. 2552 ถือ
เป็นหลักหมุดที่ส าคัญในประวัติศาสตร์สิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาคของอาเซียน อย่างไรก็ตามในช่วง
ระยะเวลากว่า 6 ปีที่ AICHR ได้ปฏิบัติหน้าที่มาถึงสองวาระ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า AICHR และกลไกสิทธิ
มนุษยชนของอาเซียนอื่นๆ ไม่สามารถท าหน้าที่ในการให้ความคุ้มครองผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือกรณี
มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับภูมิภาคซึ่งไม่อาจพึ่งพิงกลไกสิทธิมนุษยชนของประเทศสมาชิกใดเป็น
การเฉพาะได้ จากสาเหตุที่ได้วิเคราะห์ไว้ในบทที่ 6 ดังนั้น การปฏิรูปกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียนจึงถือเป็น
ทางออกที่ส าคัญและจ าเป็นเพื่อให้อาเซียนก้าวข้ามข้ออ้างที่มักถูกหยิบยกว่า การส่งเสริมควรมาก่อนการ
คุ้มครองสิทธิมนุษยชน (Promotion first, protection later) ซึ่งการทบทวนขอบเขตอ านาจหน้าที่ของ
AICHR เมื่อครบระยะเวลา 5 ปีนับแต่ประกาศใช้ TOR เป็นกลไกที่ก าหนดไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วในเอกสาร
TOR แต่เมื่อครบก าหนดระยะเวลาดังกล่าวกลับยังขาดความชัดเจนในระดับนโยบายว่าจะให้มีการทบทวน
เอกสารดังกล่าวหรือไม่และอย่างไร ทั้งนี้โดยที่หน่วยงานที่มีอ านาจหน้าที่โดยตรงในการแก้ไขปรับปรุง
National Human Rights Commission of Thailand 74