Page 94 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 94

85




                  กันไป ตามที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติรับรองว่าบุคคลย่อมเสมอภาคกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตาม
                  กฎหมายเท่าเทียมกัน

                                  2) การใช้กฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันนั้นต้องมีความสัมพันธ์กับสาระสําคัญของกฎเกณฑ์นั้น
                                    การใช้กฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันนั้นต้องคํานึงถึงสาระสําคัญของกฎเกณฑ์ คือกฎเกณฑ์ที่
                  จะนํามาใช้ต้องมีความสัมพันธ์กับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะอยู่ในสถานะที่เหมือนกัน แต่ข้อเท็จจริงอันเป็น
                  สาระสําคัญนั้นแตกต่างกันแล้วกฎเกณฑ์ที่นํามาใช้บังคับนั้นต้องแตกต่างกันไปด้วย แต่ถ้าเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่เป็น
                  สาระสําคัญและอยู่ในสถานะที่เหมือนกันแล้ว กฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับนั้นต้องเป็นกฎเกณฑ์เดียวกัน เช่น กฎหมาย

                  บําเหน็จบํานาญกําหนดให้ข้าราชการรับราชการ 10 ปีขึ้นไปมีสิทธิรับบําเหน็จบํานาญ ฝุายนิติบัญญัติจะออก
                  กฎหมายบัญญัติให้ข้าราชการซึ่งรับราชการเพียง 2 ปีที่ผู้บังคับบัญชาเห็นควรยกย่องให้ได้รับบําเหน็จบํานาญ
                  เท่ากับข้าราชการซึ่งได้บํานาญ 10 ปี เช่นนี้หาได้ไม่ เพราะเมื่อเหตุไม่เหมือนกัน คือ  เวลาราชการไม่เท่ากัน

                  ก็ควรได้รับผลปฏิบัติแตกต่างกัน ไม่ควรให้ได้รับผลปฏิบัติเสมอกัน แม้จะอยู่ในสถานะที่เป็นข้าราชการเหมือนกัน
                  ก็ตาม (สมยศ เชื้อไทย, 2535: 139)
                                  3) การปฏิบัติให้แตกต่างกันอันเนื่องมาจากผลประโยชน์มหาชน
                                    การปฏิบัติต่อบุคคลตามหลักความเสมอภาคนั้นย่อมต้องคํานึงถึงเรื่องประโยชน์สาธารณะ

                  เหนือประโยชน์ส่วนบุคคล จะอ้างหลักความเสมอภาคในการใช้กฎเกณฑ์เพื่อมาคุ้มครองปัจเจกชนไม่ได้ เช่น
                  ในกรณีที่มีความไม่สงบเกิดขึ้นในบ้านเมือง ทางการจําเป็นต้องใช้มาตรการเพื่อก่อให้เกิดความสงบสุขกลับมาสู่
                  บ้านเมืองอย่างเร็วที่สุด การใช้มาตรการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติและการเคารพต่อหลักแห่ง
                  ความเสมอภาค ผู้ที่เดือดร้อนจากการกระทําดังกล่าวจะอ้างหลักแห่งความเสมอภาคต่อรัฐไม่ได้

                                  4)  การอ้างประโยชน์สาธารณะเพื่อไม่ต้องเคารพต่อหลักแห่งความเสมอภาคนั้นจะต้องไม่เป็น
                  การก่อให้เกิดการแบ่งแยกอย่างที่ไม่สามารถยอมรับได้
                                    การอ้างประโยชน์สาธารณะในการปฏิบัติให้แตกต่างกันนั้น แม้จะถือว่าเป็นการกระทบ
                  ต่อหลักแห่งความเสมอภาคและก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติก็ตามที แต่อย่างไรก็ดีการกระทําดังกล่าวนั้น จะต้อง

                  ไม่ก่อให้เกิดการแบ่งแยกอย่างที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วก็ไม่สามารถใช้กฎเกณฑ์ดังกล่าวได้การ
                  แบ่งแยกอย่างที่ไม่สามารถยอมรับได้นั้น ที่เห็นได้ชัดคือการแบ่งแยกที่เป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เช่น
                  การแบ่งแยกในเรื่องแหล่งกําเนิด เชื้อชาติ ศาสนา เพศ เป็นต้น

                                  5) การเลือกปฏิบัติที่เป็นธรรมมุ่งลดความเหลื่อมล้ําที่ดํารงอยู่
                                    การเลือกปฏิบัติที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ําที่ดํารงอยู่หรือการปฏิบัติในทางบวกคือการดําเนิน
                  การตามกฎหมายที่แตกต่างกันในลักษณะชั่วคราวที่ผู้มีอํานาจกําหนดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและ
                  ยกระดับบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีสถานะด้อยกว่าบุคคลอื่นเพื่อทดแทนความไม่เท่าเทียมกันที่ดํารงอยู่
                  (F.MELIN-SOUCRAMENINE, “Les adaptions du principe d’egalite a la diversite desterritoires,”

                  RFDA., 1977’p.911. อ้างถึงในสมคิด เลิศไพฑูรย์, 2543:170)
                                    หลักการนี้เกิดจากแนวคิดของประธานาธิบดีเคนเนดี้และประธานาธิบดีจอห์นสันที่ต้องการ
                  สร้างความเป็นธรรมขึ้นในสังคมอเมริกา หลักการดังกล่าวได้รับการยอมรับด้วยการตรากฎหมายสิทธิพลเมือง
   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99