Page 95 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 95

86




                  (Civil Rights Act) ขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 1964 (Patrick WACHSMANN, Libertes Publiques, (Paris:
                  Dalloz,1996,p.224. อ้างถึงในสมคิด เลิศไพฑูรย์, 2543 : 170) และศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกาดําเนินการตาม

                  หลักดังกล่าวโดยการตัดสินในคดี Regents of University of California V.Bakke 438 US265 (1978) ว่าการที่
                  มหาวิทยาลัยสํารองที่นั่ง 16% ของคณะแพทยศาสตร์ให้แก่นักศึกษาชนกลุ่มน้อยต่างๆ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ
                  ที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ําที่ดํารงอยู่ เป็นต้น นอกจากนี้ หลักการเลือกปฏิบัติที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ําที่ดํารงอยู่นี้
                  ยังได้รับจากรับรองจากศาลประชาคมยุโรปโดยมีการนําหลักเกณฑ์นี้มาตัดสินในคดี Affaire linguistique belge
                  ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 1969 ว่า “ความไม่เสมอภาคทางกฎหมายบางประเภทมีขึ้นเพื่อแก้ไขความไม่เสมอภาค

                  ในทางความเป็นจริง” (Jean-Francois FLAUSS, “Discrimination positive et convention europeenne des
                  droits de l’ homme,” in Pouvoir et Liberte Etudes Offertes a Jacques MOURGEON (Bruxelles:Emile
                  Bruylant, 1998), p.419. อ้างถึงในสมคิด เลิศไพฑูรย์, 2543: 170)

                                    ในประเทศฝรั่งเศส หลักการนี้มิได้รับการยอมรับ เพราะถือว่าขัดกับหลักความเสมอภาค
                  โดยตุลาการรัฐธรรมนูญฝรั่งเศสได้วินิจฉัยไว้เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 1982 ว่าการที่รัฐสภาตรากฎหมายกําหนด
                  ว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลแบบบัญชีรายชื่อนั้น บัญชีรายชื่อใดบัญชีรายชื่อหนึ่งจะมีผู้สมัครสมาชิกสภา
                  เทศบาลเพศเดียวกันเกินกว่า 75% ไม่ได้ คือว่าขัดกับหลักความเสมอภาคที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ (Patrick

                  WACHSMANN,op. cit,p.234. อ้างถึงในสมคิด เลิศไพฑูรย์, 2543: 171)
                                  6) การปฏิบัติให้แตกต่างกันอันเนื่องมาจากระบบที่แตกต่างกัน
                                    การปฏิบัติให้แตกต่างกันนั้นอาจมีผลสืบเนื่องจากการมีระบบที่แตกต่างกัน ดังนั้นการจะ
                  พิจารณาเปรียบเทียบว่ามีการปฏิบัติเท่าเทียมกันหรือไม่ ต้องมีการเปรียบเทียบว่าอยู่ในระบบเดียวกันหรือไม่

                  เช่น การที่กําหนดให้ข้าราชการ ทหาร หรือตํารวจไม่มีสิทธิในการประท้วงการนัดหยุดงานเพื่อต่อรองค่าจ้าง
                  หรือเงินเดือนของข้าราชการ ซึ่งแตกต่างไปจากระบบของเอกชนที่ให้ลูกจ้างมีสิทธิที่ใช้การประท้วง การนัด
                  หยุดงานตามขั้นตอนที่กฎหมายกําหนดไว้เป็นเครื่องมือในการต่อรองเรื่องเงื่อนไขในการจ้างได้ ในกรณีนี้
                  มิอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมกันอันขัดต่อหลักความเสมอภาค ทั้งนี้เพราะระบบของ

                  ราชการกับระบบของภาคเอกชนนั้น มีลักษณะที่แตกต่างกัน (บรรเจิด สิงคะเนติ, 2543: 21)
                                  7) การปฏิบัติให้แตกต่างกันอันเนื่องมาจากประเพณี
                                    ขนบธรรมเนียมประเพณีที่แตกต่างกันอาจเป็นเหตุในการปฏิบัติให้แตกต่างกัน การปฏิบัติ

                  ตามขนบธรรมเนียมต้องไม่ยึดหลักการปฏิบัติกันมายาวนานเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาความถูกต้อง แต่จะต้อง
                  ใช้หลักความยุติธรรมของประชาชนในปัจจุบันเป็นเกณฑ์การพิจารณา เช่น สถาบันการศึกษาของรัฐแห่งหนึ่ง
                  ได้ตั้งมาเป็นเวลายาวนาน ในขณะที่ตั้งนั้นมีความมุ่งหมายเพื่อจะให้เฉพาะลูกหลานของข้าราชการเท่านั้นได้
                  ศึกษาเล่าเรียน ต่อมาเมื่อการศึกษาเปิดกว้างขึ้นสําหรับการรับบุคคลอื่นเข้าศึกษา แต่สถาบันนี้ยังกําหนดไว้ว่า
                  ผู้ที่เป็นข้าราชการของหน่วยงานนั้น ย่อมได้รับสิทธิพิเศษในการคัดเลือกเข้าศึกษาในสถาบันแห่งนั้น ในกรณีนี้

                  จะเห็นได้ว่าการยึดถือประเพณีที่ปฏิบัติมาอย่างยาวนานของสถาบันการศึกษาแห่งนั้นไม่อาจจะใช้เป็นเกณฑ์
                  ในการพิจารณาหลักความเสมอภาคได้ เพราะการพิจารณาหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะต้องอาศัยหลักความยุติธรรม
                  ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา เป็นต้น (บรรเจิด สิงคะเนติ, 2543: 22)
   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100