Page 140 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 140

131




                  ทุกคนเข้าถึงสถานบริการ สินค้าและบริการ โดยเฉพาะกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงหรือกลุ่มที่ถูกเบียดให้อยู่
                  ชายขอบของสังคมมากที่สุด ทั้งนี้ให้ทําทั้งในทางกฎหมายและโดยไม่เลือกปฏิบัติต่อเงื่อนไขต้องห้ามบางอย่าง”

                  (ย่อหน้า 12 b) ซึ่งรวมถึงความพิการทางกายหรือใจ สถานะด้านสุขภาพ และสถานะอื่นๆ “ที่มีแนวโน้มจะส่ง
                  ผลกระทบ ทําลาย หรือบั่นทอนความเท่าเทียมในด้านสิทธิ หรือขัดขวางการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพ” (ย่อหน้า
                  18) และให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่สําคัญ เช่น ความสําคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการออกแบบ ดําเนินการ
                  และควบคุมบริการด้านสุขภาพ และความสําคัญของการแก้ปัจจัยปัญหาที่อยู่เบื้องหลังการดูแลสุขภาพ ความเห็น
                  ทั่วไปฉบับนี้ห้ามชัดเจนมิให้มีการเลือกปฏิบัติด้านสุขภาพ (ศึกษา:กรอบด้านสิทธิ พิสูจน์ และเปลี่ยนแปลง, 2558

                  : 6, 18, 23)
                                         ดังนั้นแม้ว่าจะยังไม่มีตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนฉบับใดห้ามมิให้
                  เลือกปฏิบัติต่อกลุ่มบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีในฐานะเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติโดยตรง แต่จากบทบัญญัติใน

                  ตราสารระหว่างประเทศดังกล่าวที่ห้ามเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่อง “สถานภาพอื่นๆ” ด้วยนั้น
                  อาจกล่าวได้ว่า การปฏิบัติที่แตกต่างต่อบุคคลเพียงเพราะเหตุที่บุคคลนั้นมีอาการตาบอดสีแต่เพียงอย่างเดียว
                  ในทุกกรณี โดยไม่พิจารณาถึงความจําเป็น ความได้สัดส่วนของประโยชน์สาธารณะ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติที่
                  ไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชน

                                  5.1.2.2 แนวความคิดเกี่ยวกับการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการ
                  ตาบอดสี
                                         ผลการศึกษาจากการวิเคราะห์เอกสารในเรื่องแนวความคิดเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ
                  โดยไม่เป็นธรรม พบว่าแนวความคิดนี้ยังเป็นแนวความคิดที่ค่อนข้างใหม่ในสังคมไทย ที่ปรากฏชัดเจนขึ้นในปี

                  พ.ศ.2540 เป็นต้นมานี้เอง แนวความคิดในการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมนี้สามารถสรุปได้ว่า การเลือก
                  ปฏิบัติที่ห้ามกระทําตามหลักความเสมอภาคของไทย คือ "การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม" (Unfair discrimination)
                  การปฏิบัติต่อบุคคลที่แตกต่างกัน (Different treatment) สามารถกระทําได้ เพียงแต่มีข้อจํากัด 2 ประการ
                  คือ 1) ห้ามมิให้แบ่งแยกบุคคลออกเป็นประเภทโดยเหตุแห่งความแตกต่าง (ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่ง

                  ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 คือ ในเรื่องถิ่นกําเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายภาพหรือ
                  สุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรมหรือความคิดเห็น
                  ทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ) และ2) การปฏิบัติต่อบุคคลที่ถูกแบ่งแยกเป็นประเภท

                  โดยเหตุแห่งความแตกต่างกันโดยแตกต่างกันนั้นจะต้องมีเหตุผลอันหนักแน่นควรค่าแก่การรับฟังได้ (Raison
                  objectivement plausible)
                                         เมื่อแนวความคิดหลักในเรื่องการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของไทยเป็น
                  เช่นนี้ แนวความคิดเกี่ยวกับการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีในสังคมไทย
                  จึงเป็นแนวคิดที่อยู่ภายใต้หลักการเดียวกันกับแนวคิดเกี่ยวกับการถูกเลือกปฏิบัติที่ปรากฏตามรัฐธรรมนูญแห่ง

                  ราชอาณาจักรไทย ดังนั้น การเลือกปฏิบัติต่อบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องที่
                  มีอาการตาบอดสีสามารถกระทําได้โดยไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ถ้าการเลือกปฏิบัตินั้นมี
                  เหตุผลอันหนักแน่นควรค่าแก่การรับฟังได้
   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145