Page 130 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 130
121
ยังไม่เพียงพอที่จะคุ้มครองและปูองกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล และการไม่นํามาตรฐาน
ทั่วไปในเรื่องการห้ามเลือกปฏิบัติต่อบุคคลมาบัญญัติเป็นกฎหมายภายในประเทศนี้เป็นการกระทําที่ไม่สอดคล้อง
กับหลักการสิทธิมนุษยชนสากลตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเข้าเป็นภาคี
4.4 ทางเลือก ข้อเสนอแนะ หรือข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไขระเบียบข้อกฎหมายที่เป็นการ
เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลผู้มีอาการตาบอดสี
โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติรับรองว่า การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อ
บุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกําเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางร่างกาย
หรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรมหรือ
ความคิดเห็นทางการเมือง อันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทํามิได้ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ยังมี
การเลือกปฏิบัติในลักษณะต่างๆ ปรากฏอยู่ในสังคมไทย รวมทั้งยังมีปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของ
บุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
ผู้ให้สัมภาษณ์ ผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่มและผู้ให้ความคิดเห็นในเวทีรับฟังความคิดเห็น ได้เสนอทางเลือก
ข้อเสนอแนะ หรือข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไขระเบียบข้อกฎหมายที่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อ
บุคคลผู้มีอาการตาบอดสีไว้หลายด้าน จําแนกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
1) การสอบใบขับขี่ กรมการขนส่งควรปรับหลักเกณฑ์การวัดสายตาและให้ใช้ไฟจราจรจริง และ
การจํากัดเรื่องสายตาไม่ควรกําหนดไว้ในกฎหมายใด (ผู้ให้สัมภาษณ์ท่านที่ 1, สํานักงานคณะกรรมการสิทธิ
มนุษยชนแห่งชาติ, สัมภาษณ์ 4 กรกฎาคม 2558)
2) ควรมีกฎหมายกลางที่เกี่ยวข้องกับการเลือกปฏิบัติทุกประเภท โดยหากมีสิ่งใดเพิ่มเติมก็ไป
บัญญัติในกฎหมายลูกต่อไป ประเด็นที่ต้องพิจารณาคือทําอย่างไรให้ยึดหลักความเสมอภาคและไม่เลือกปฏิบัติ
และไม่ไปกระทบสิทธิ จนทําให้บุคคลผู้นั้นมีผลกระทบในการใช้ชีวิต (ผู้ให้สัมภาษณ์ท่านที่ 2, สํานักงาน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, สัมภาษณ์ 4 กรกฎาคม 2558)
3) ในการขอรับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ได้มีการปรับหลักเกณฑ์ในการทดสอบตาบอดสีเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว เมื่อปี พ.ศ.2555 เพื่อให้บุคคลที่มีอาการตาบอดสีบางคนที่ไม่มีอาการรุนแรงได้ทดสอบในเรื่องนี้
ผ่านได้ เพียงแต่ยกเว้นไว้เฉพาะผู้ที่ไม่สามารถบอกสีได้เลย ที่ทางหน่วยงานไม่อนุญาตให้ผ่านการทดสอบเพื่อมี
ใบอนุญาตขับรถได้ (ผู้ให้สัมภาษณ์ท่านที่ 3, กรมการขนส่งทางบก, สัมภาษณ์ 20 พฤษภาคม 2558)
4) ควรมีการปรับปรุงกฎหมายเท่าที่จําเป็น เพราะผู้ที่มีอาการตาบอดสีนั้นมีข้อจํากัดทางกายภาพ
ในการใช้ชีวิตประจําวันและการทํากิจกรรมด้านต่างๆ จริง ซึ่งกฎหมายในปัจจุบันก็ได้คํานึงถึงความเหมาะสม
และความปลอดภัยก่อนเป็นสําคัญอยู่แล้ว แต่หากให้มีการปรับปรุงจริง ก็ควรจะเป็นในส่วนของการอํานวย
ความสะดวกให้กับบุคคลผู้มีอาการตาบอดสีให้ได้รับความเท่าเทียมในการรับบริการต่างๆ ทั้งจากทางภาครัฐ
และเอกชน และการให้ความรู้เรื่องข้อกฎหมายเพื่อประโยชน์ในการดําเนินชีวิตประจําวัน (ผู้ให้สัมภาษณ์ท่านที่
4, กรมการขนส่งทางบก, สัมภาษณ์ 27 พฤษภาคม 2558)