Page 134 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 134

125




                  ได้รับการอนุญาตนั้นก็ต้องมีมาตรฐานในการตรวจสอบบุคคล อีกทั้งการประกอบอาชีพก็ควรให้ความยุติธรรม
                  ในรับเข้าทํางานเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป และควรมีการให้ความสําคัญกับบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีในด้าน

                  การศึกษาเป็นสําคัญ โดยมีการฝึกและหาแนวทางให้บุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคน
                  ปกติ หากบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีสามารถมีการศึกษาที่ดีได้รับการยอมรับและมีการใช้ชีวิตได้เหมือนหรือ
                  คล้ายคนปกติก็สามารถที่จะเข้าทํางานในอาชีพต่างๆ ได้ง่ายขึ้น (ผู้เข้าร่วมเวทีสาธารณะท่านที่ 8, เวทีสาธารณะ
                  6 กรกฎาคม 2558)
                            23)  ด้านการศึกษาของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีควรมีการตรวจสอบและประเมินความสามารถ

                  ของตนเองประกอบกับการตรวจสอบคุณสมบัติของบางสาขาวิชา ด้านการประกอบอาชีพ เป็นผลสืบเนื่องจาก
                  ด้านการศึกษาว่าไม่สามารถเรียนได้บางสาขาวิชา จึงประกอบอาชีพสาขาวิชานั้นๆ ไม่ได้ และการปฏิบัติต่อผู้ที่
                  มีอาการตาบอดสีไม่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ยกตัวอย่างในการขอรับอนุญาตใบขับขี่รถยนต์นั้นต้องมี

                  หลักเกณฑ์ในการทดสอบตาบอดสีอย่างรอบคอบ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกได้มีระเบียบต่อการดําเนินการ
                  ขอรับใบอนุญาตขับขี่ตามกฎหมาย ว่าต้องมีการทําทดสอบตาบอดสี และเห็นว่าควรมีการแบ่งประเภทของตา
                  บอดสี และระดับของความมากน้อยของอาการ และออกกฎหมายรองรับให้ชัดเจนตามศักยภาพของบุคคล
                  (ผู้เข้าร่วมเวทีสาธารณะ ท่านที่ 9, เวทีสาธารณะ 6 กรกฎาคม 2558)

                            24)  ในเรื่องใบขับขี่ ผู้ให้ข้อมูลเสนอให้กรมการขนส่งทางบก ปรับเปลี่ยนการทดสอบไฟสีให้โทนสี
                  ตรงกับไฟที่ใช้จริงตามท้องถนน โดยประสบการณ์ส่วนตัวได้ขับขี่รถยนต์มาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ
                  หรือมีปัญหากับการเข้าใจไฟสัญญาณจราจร ส่วนตัวคิดว่าอาการตาบอดสีนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคในการขับขี่หรือ
                  เป็นเหตุที่เป็นสาระสําคัญของความไม่ปลอดภัยบนท้องถนน ผู้ให้ข้อมูลมีประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่

                  ต่างประเทศหลายประเทศและพบว่า หลายประเทศมีการใช้สัญลักษณ์แสดงร่วมกับสัญญาณไฟ เช่น เมื่อห้าม
                  ไปจะเป็นสัญลักษณ์การห้าม เมื่อไปได้ก็จะแสดงลูกศรตรงไป ทําให้ความสําคัญของการเข้าใจสีมีจําเป็นน้อยลง
                  กว่าสัญลักษณ์ที่แสดงร่วมในไฟสัญญาณ ในส่วนของข้อเสนอแนะทางการศึกษานั้นประเด็นแรกที่สําคัญที่สุด
                  คือ แนะนําให้มีการตรวจอาการตาบอดสีตั้งแต่ในวัยเด็กเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะอาการตาบอดสีถ่ายทอดทาง

                  พันธุกรรม บุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีจะทราบได้โดยทันทีว่าลูกของตนมีความเสี่ยงที่จะมีอาการตาบอดสี
                  การทราบอาการตาบอดสีโดยเร็วที่สุดจะทําให้สามารถปรับตัวทางด้านการศึกษาและการใช้ชีวิตในสังคม
                  ในอนาคตทําได้ง่ายขึ้น ส่วนด้านการประกอบอาชีพ เห็นว่า หลายอาชีพที่ไม่ควรกีดกันบุคคลผู้ที่มีอาการตา

                  บอดสี หรือลดจํานวนอาชีพที่ห้ามบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากอาการตาบอด
                  สีมิใช่สาระสําคัญของการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับราชการตํารวจ ซึ่งมีบางตําแหน่งงานใน
                  กองทัพหรืองานความมั่นคงหรืองานการตํารวจที่ไม่ต้องใช้การมองเห็นสีเป็นสาระสําคัญ เช่น ฝุายกฎหมาย
                  ฝุายการเงิน บัญชี เป็นต้น (ผู้เข้าร่วมเวทีสาธารณะ ท่านที่ 6, สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ,
                  เวทีสาธารณะ 6 กรกฎาคม 2558)

                            จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากผู้ให้สัมภาษณ์ ผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่มและผู้ให้ความคิดเห็นในเวที
                  สาธารณะรับฟังความคิดเห็น พบว่า ผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่เห็นว่ายังมีการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลผู้ที่มีอาการตา
                  บอดสีอยู่ในสังคมไทย ทั้งในด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตประจําวัน การเลือกปฏิบัติใน
   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139