Page 117 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 117
108
หมวด 13 ผู้พิการ กรณีอื่นๆ (มาตรา 189 - มาตรา 190)
หมวด 14 ข้อยกเว้นทั่วไป (มาตรา 191 - มาตรา 197)
หมวด 15 ทรัพย์สินครอบครัว (มาตรา 198 – มาตรา201)
หมวด 16 ทั่วไป และอื่นๆ (มาตรา 202-มาตรา 218)
1) วัตถุประสงค์ของกฎหมาย
ต้องการที่จะรวมมาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติที่มีอยู่หลาย
ฉบับเข้ามารวมกันไว้ในฉบับเดียว และพยายามแก้ไขปรับเปลี่ยนมาตรการทางกฎหมายที่มีอยู่เดิมให้คุ้มครอง
ได้มากขึ้น เพื่อมิให้เกิดการเลือกปฏิบัติ และก่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในสิทธิ เสรีภาพ และโอกาสทางสังคม
มากขึ้น ดังนั้น ภาครัฐและเอกชนจึงมีหน้าที่กําหนดแนวทาง และพิจารณาหามาตรการให้สอดคล้องกับกฎหมาย
ฉบับนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนการบริการสาธารณะ การจ้างแรงงาน การศึกษาและ
การสมาคม
2) ความหมายของการเลือกปฏิบัติ
การคุ้มครองมิให้มีการเลือกปฏิบัติ แบ่งรูปแบบเป็นการเลือกปฏิบัติโดยตรง
และการเลือกปฏิบัติโดยอ้อม ในมาตรา 13 และมาตรา 19 ตามลําดับ ดังนี้
“13 Direct discrimination
(1) A person (A) discriminates against another (B) if, because of a
protected characteristic, A treats B less favourably than A treats or would treat others.
...”
“มาตรา 13 การเลือกปฏิบัติโดยตรง
(1) บุคคลหนึ่ง (ก) เลือกปฏิบัติต่อบุคคลอื่น (ข), ที่เป็นบุคคลกลุ่มที่ได้รับ
ความคุ้มครอง, เมื่อ ก ปฏิบัติต่อ ข โดยปฏิบัติด้อยกว่าที่ ก ปฏิบัติต่อคนอื่น หรือที่ ก จะปฏิบัติต่อคนอื่น
…”
“19 Indirect discrimination
(1) A person (A) discriminates against another (B) if A applies to
B a provision, criterion or practice which is discriminatory in relation to a relevant protected
characteristic of B’s.
(2) For the purposes of subsection (1), a provision, criterion or
practice is discriminatory in relation to a relevant protected characteristic of B’s if-
(a) A applies, or would apply, it to persons with whom B
does not share the characteristic,
(b) it puts, or would put, persons with whom B shares the
characteristic at a particular disadvantage when compared with persons with whom B does
not share it,