Page 591 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 591

เทศบาลตําบลตรวจสอบพบเป็นการประสานขอและอนุญาตด้วยวาจา เรื่องการออกโฉนด
                       ที่ดินจะประสานเจ้าหน้าที่ที่ดินแจ้งว่าสามารถออกโฉนดเป็นสองแปลงแต่ต้องเว้นพื้นที่คลองระบายนํ้า
                       เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะซึ่งเทศบาลตําบลวางแผนปรับปรุงเพิ่มสาธารณูปโภคบริเวณคลองระบายนํ้า
                                        ้
                       ก่อสร้างถนนและไฟฟาสาธารณประโยชน์ ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้ราษฎรทั่วไปได้รับประโยชน์ สํานักงาน
                       ที่ดินจังหวัด ส่งเรื่องให้ศูนย์อํานวยการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินและเทศบาลตําบลตรวจสอบ กรณี
                                                                                                  ั
                       การเดินออกสํารวจโฉนดที่ดินในที่พิพาทอยู่ระหว่างจัดสายสํารวจเข้าดําเนินการรังวัดปกเขตโดย
                       ประสานเทศบาลตําบลให้ตรวจสอบลํารางระบายนํ้าว่ามีลักษณะเป็นลํารางสาธารณประโยชน์หรือไม่
                       เพื่อจะได้ดําเนินการพิจารณาออกโฉนด ”
                              “ จังหวัดอํานาจเจริญ : ที่ดินมีการครอบครองทําประโยชน์ เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่เศษ ตั้ง

                       ห่างจากโรงเรียน 200 เมตรเศษ
                              พ.ศ. 2516 โรงเรียนขอแลกเปลี่ยนที่ดินกับผู้ร้องเพื่อก่อสร้างโรงเรียนแห่งใหม่เพราะที่ตั้งเดิม
                              ั
                       ประสบปญหานํ้าท่วมเป็นประจําทุกปีและการเดินทางไปมาไม่สะดวก คณะกรรมการหมู่บ้านเห็นชอบ
                       การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ผู้ร้องและพวกตกลงยินยอมและเข้าทํากินในที่ดินโรงเรียนเดิม โรงเรียนย้ายมา
                       ตั้งบริเวณที่ดินผู้ร้อง
                              พ.ศ. 2519 ผู้ร้องและพวกยื่นคําขอออกเอกสารสิทธิในที่ดินโรงเรียนเดิมเป็นหนังสือรับรอง

                       การทําประโยชน์ น.ส.3 ก เลขที่ 1338 เนื้อที่ 7-2-07 ไร่ ออกให้เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2519
                              พ.ศ. 2520 ทางราชการออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงในที่ดินโรงเรียนเดิมเลขที่ 6339 เนื้อ

                       ที่ 11-2-26 ไร่ ในความดูแลของกระทรวงการคลัง ทับซ้อนที่ น.ส.3 ก ของตน
                              พ.ศ. 2545 คณะกรรมการโรงเรียนมีมติจะเอาที่ดินที่เคยตกลงแลกเปลี่ยนคืน
                              พฤษภาคม 2548 ผู้อํานวยการโรงเรียนเข้ายึดที่ตั้งโรงเรียนเดิม
                              สํานักงานที่ดินจังหวัดเห็นว่าการแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2516 ไม่ดําเนินการให้ถูกต้อง

                       ตามกฎหมายคือ ไม่ได้ออกเป็นพระราชบัญญัติเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของ
                       แผ่นดิน ตามมาตรา 8 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และไม่ได้ตราพระราชกฤษฎีกาประกาศให้ถอน

                       สภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามมาตรา 9 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน ที่ดินดังกล่าวจึงยัง
                       เป็นที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินและต้องห้ามโอน ห้ามยึดและยกอายุความขึ้นต่อสู้แผ่นดิน การ
                       ออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงจึงเป็นการออกโดยชอบ การออกหนังสือรับรองการทําประโยชน์ของ
                       ผู้ร้องเป็นการออกเอกสารทับซ้อนที่ดินแปลงเดียวกัน เห็นควรพิจารณาดําเนินการเพิกถอน น.ส.3 ก

                       ของผู้ร้อง ”
                              “ จังหวัดอุดรธานี : ผู้ร้องอยู่อาศัยบนที่ดิน น.ส.3 ก เลขที่ดิน 138 ครอบครองทํา

                       ประโยชน์ ปลูกสร้างบ้านเลขที่ 64
                              พ.ศ. 2539 กรมทางหลวงดําเนินการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2393 ราษฎรไม่ทราบว่า
                       ทางการจะจ่ายค่าเวนคืนที่ดิน ค่ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง อย่างไร

                              พ.ศ. 2544 เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเข้าสํารวจทรัพย์สินของผู้ร้องที่ต้องรื้อถอนและแจ้งให้ผู้
                       ร้องรื้อถอนบ้านออกไปเพื่อจะทําการก่อสร้าง ผู้ร้องเห็นว่ามีการสํารวจทรัพย์สินแล้วและเขตทางรุกลํ้า


                                                                                                      9‐49
   586   587   588   589   590   591   592   593   594   595   596