Page 590 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 590
คนแรกแต่หัวหน้างานบอกผู้ร้องให้ชาวบ้านจับก่อน ผู้ร้องเกรงใจจึงทําตาม ต่อมาหัวหน้างานลาออก
ทําให้ผู้ร้องยังไม่ได้ที่ทํากินและที่อยู่อาศัย
18 พฤศจิกายน 2547 ผู้ร้องร้องเรียนต่อนายอําเภอผ่านผู้ใหญ่บ้านหลังจากที่พบเอกสาร
หลักฐานของตนที่เจ้าหน้าที่เก็บไว้เพื่อใช้จับสลากในครั้งก่อน คือ ใบ ภ.บ.ท.5 และหลักฐานที่การ
้
ไฟฟาฯ จ่ายค่าทดแทนค่าที่ดิน ค่าต้นไม้, ค่าอาคาร รวมเป็นเงิน 80,944.85 บาท เมื่อเดือน
พฤศจิกายน 2526 นายอําเภอตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นน่าเชื่อว่าผู้ร้องมีสิทธิ จึงมีหนังสือให้การ
้
ไฟฟาฯ พิจารณาว่าผู้ร้องขาดสิทธิที่จะได้รับการจัดสรรเพราะไม่มีบ้าน และให้ยื่นอุทธรณ์หากคิดว่าตน
มีสิทธิ ที่ดินแปลงที่ผู้ร้องขอใช้สิทธิทํากินเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน กฟผ.ครอบครองอยู่ ซึ่งขอ
อนุมัติใช้จากกระทรวงมหาดไทย กฟผ. ไม่มีที่ดินที่จะนําไปจัดสรรให้ผู้ร้อง เห็นควรให้ผู้ร้องขอความ
ช่วยเหลือจากทางราชการในการหาที่ดินทํากินและมีที่อยู่อาศัยบริเวณอื่นแทน ”
“ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ : ที่ดินขายทอดตลาดมีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก เลขที่ 1464 เนื้อ
ที่ 36-2-86 ไร่ ผู้ร้องซื้อโดยดูจากสถานที่จริงเป็นไร่สัปปะรดตรงตามภาพที่โฆษณาในเอกสาร จากการ
ขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีร่วมกับธนาคารกรุงไทยฯ ในราคา 245,000 บาท ผู้ร้องจะเข้าทํา
ประโยชน์ กํานันและผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่าที่ดินดังกล่าวไม่มีอยู่จริง ส่วนที่ดินที่ธนาคารอ้างเป็นของ
ชาวบ้านไม่ทราบชื่อ ผู้ร้องจ้างช่างรังวัดรังวัดที่ดินแต่ไม่พบที่ดินตาม น.ส.3 ก
31 มีนาคม 2547 ผู้ร้องขอรังวัดอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เนื่องจากสภาพที่ดิน
อยู่บนเขาสูงชันไม่มีทางเข้าไปได้
2 กันยายน 2546 ผู้ร้องแจ้งความที่สถานีตํารวจภูธรเมือง ผู้ร้องสอบถามที่กรมบังคับคดี
้
ได้รับคําตอบว่าให้จ้างทนายความยื่นฟองต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคําสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดจึงจะได้
เงินคืน ผู้ร้องยื่นคําร้องคัดค้านการขายทอดตลาด ศาลยกคําร้องเนื่องจากคําร้องดังกล่าวมิใช่คําร้อง
คัดค้านการขายทอดตลาดว่าราคาตํ่า เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่สุจริตหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
้
ชอบที่จะฟองเป็นคดีใหม่
17 ตุลาคม 2546 สํานักงานที่ดินจังหวัดยืนยันการมีอยู่และการออกโดยชอบของ น.ส.3 ก
เลขที่ 1464 เมื่อดูจากสารบบเป็นการออกโดยไม่มีหลักฐาน อาจเป็นการลงระวางผิดพลาด
คลาดเคลื่อนตําแหน่งเพราะการลงระวางช่วง พ.ศ. 2519 - 2520 จ้างคนซึ่งไม่มีความรู้ทางด้านรูปถ่าย
ทางอากาศ (จบ ม.3 มาอบรม 1 เดือน) มาทําการรังวัด ธนาคารฯ อธิบายว่าผู้จัดการธนาคารต้องไปดู
ที่ดินก่อน บางครั้งเชื่อจากเอกสารหรือลูกค้านําชี้ ธนาคารไม่ได้เป็นผู้ตกลงขาย เป็นหน้าที่ของผู้ร้อง
ต้องไปดูสถานที่จริง ”
“ จังหวัดกาญจนบุรี : ที่ดินพิพาทมีหลักฐานใบเสียภาษีบํารุงท้องที่และหนังสือรับรอง
การทําประโยชน์ เทศบาลตําบลเจรจากับผู้ร้องและพวกว่าจะขอขุดลอกร่องนํ้าเล็กๆ เพื่อระบายนํ้า
ท่วมโดยไม่แจ้งรายละเอียดใดของโครงการและไม่นัดผู้ร้องและพวกให้ทราบ เทศบาลดําเนินการโดย
ไม่มีหนังสือชี้แจงและไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ร้องและพวก กรมที่ดินส่งเจ้าหน้าที่เดิน
สํารวจเพื่อออกโฉนดที่พิพาท แต่เนื่องจากเทศบาลขุดลอกลํารางผ่านกลางที่ดินทําให้ที่ดินถูกแบ่ง
ั
ออกเป็นสองโฉนด เสียเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ปจจุบันลํารางแห้งตลอดปี ยกเว้นหน้าฝนจึงจะมีนํ้าขังบ้าง
9‐48