Page 202 - คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหลักสิทธิมนุษยชน
P. 202
คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำารวจตามหลักสิทธิมนุษยชน
(๑๒) เมื่อมีการแจ้งตามมาตรา ๕ หรือมีการร้องทุกข์
ตามมาตรา ๖ แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำาด้วยความรุนแรงในครอบครัว
พ.ศ. ๒๕๕๐ แล้ว ห้ามมิให้ผู้ใดลงพิมพ์โฆษณา หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน
ด้วยวิธีใดๆ ซึ่งภาพ เรื่องราว หรือข้อมูลใดๆ อันน่าจะทำาให้เกิดความเสียหาย
แก่ผู้กระทำาความรุนแรงในครอบครัว หรือผู้ถูกกระทำาด้วยความรุนแรง
ในครอบครัวในคดีตาม พ.ร.บ. นี้
(๑๓) ในการดำาเนินการตามมาตรา ๘ ให้พนักงาน
เจ้าหน้าที่ซึ่งมีฐานะเทียบได้ไม่ตำ่ากว่าพนักงานฝ่ายปกครองหรือ
ตำารวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและได้รับ
มอบหมายจากรัฐมนตรีมีอำานาจออกคำาสั่งกำาหนดมาตรการหรือวิธีการ
เพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่บุคคลผู้ถูกกระทำาด้วยความรุนแรงในครอบครัว
เป็นการชั่วคราว ไม่ว่าจะมีคำาร้องขอจากบุคคลดังกล่าวหรือไม่ โดยให้มี
อำานาจออกคำาสั่งใดๆ ได้เท่าที่จำาเป็นและสมควร ซึ่งรวมถึงการให้ผู้กระทำา
ความรุนแรงในครอบครัวเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์ การให้ผู้กระทำา
ความรุนแรงในครอบครัวชดใช้เงินช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เบื้องต้น
ตามสมควรแก่ฐานะ การออกคำาสั่งห้ามผู้กระทำาความรุนแรงในครอบครัว
เข้าไปในที่พำานักของครอบครัว หรือเข้าใกล้ตัวบุคคลใดในครอบครัว
ตลอดจนการกำาหนดวิธีการดูแลบุตร
(๑๔) เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ออกคำาสั่งกำาหนด
มาตรการ หรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง
ตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้เสนอมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์
ต่อศาลภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่วันออกคำาสั่งกำาหนดมาตรการ
หรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ หากศาลเห็นชอบกับคำาสั่งกำาหนดมาตรการ
หรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ดังกล่าว ให้คำาสั่งกำาหนดมาตรการหรือวิธีการ
เพื่อบรรเทาทุกข์มีผลต่อไป
178