Page 200 - คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหลักสิทธิมนุษยชน
P. 200
คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำารวจตามหลักสิทธิมนุษยชน
(๓) เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้พบเห็นการกระทำา
ด้วยความรุนแรงในครอบครัว หรือได้รับแจ้งตามมาตรา ๕ แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครอง
ผู้ถูกกระทำาด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ แล้ว ให้พนักงาน
เจ้าหน้าที่มีอำานาจเข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ที่เกิดเหตุเพื่อสอบถาม
ผู้กระทำาความรุนแรงในครอบครัว ผู้ถูกกระทำาด้วยความรุนแรงในครอบครัว
หรือบุคคลอื่นที่อยู่ในสถานที่นั้น เกี่ยวกับการกระทำาที่ได้รับแจ้ง
(๔) รวมทั้งให้มีอำานาจจัดให้ผู้ถูกกระทำาด้วยความรุนแรง
ในครอบครัวเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์ และขอรับคำาปรึกษาแนะนำา
จากจิตแพทย์ นักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์
(๕) ในกรณีที่ผู้ถูกกระทำาด้วยความรุนแรงในครอบครัว
ประสงค์จะดำาเนินคดี ให้จัดให้ผู้นั้นร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา แต่ถ้าผู้นั้นไม่อยู่ในวิสัยหรือมีโอกาสที่จะร้องทุกข์ได้ด้วยตนเอง
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้ร้องทุกข์แทนได้
(๖) ถ้ามิได้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๕
หรือมิได้มีการร้องทุกข์ตามมาตรา ๖ แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำาด้วยความ
รุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ ภายในสามเดือนนับแต่ผู้ถูกกระทำาด้วย
ความรุนแรงในครอบครัวอยู่ในวิสัยและมีโอกาสที่จะแจ้ง หรือร้องทุกข์ได้
ให้ถือว่าคดีเป็นอันขาดอายุความ แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ถูกกระทำาด้วยความรุนแรง
ในครอบครัว หรือผู้มีส่วนได้เสีย จะร้องขอคุ้มครองสวัสดิภาพตามกฎหมาย
ว่าด้วยการจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาเยาวชน
และครอบครัว
(๗) เมื่อมีการร้องทุกข์ภายในอายุความตามมาตรา ๗
แล้วให้พนักงานสอบสวนทำาการสอบสวนโดยเร็วและส่งตัวผู้กระทำา
ความรุนแรงในครอบครัว สำานวนการสอบสวนพร้อมทั้งความเห็นไปยัง
176