Page 198 - คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหลักสิทธิมนุษยชน
P. 198

คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำารวจตามหลักสิทธิมนุษยชน




                                           (๔.๔)  ถ้าเด็กหรือเยาวชนไม่
          สามารถสื่อสารหรือไม่เข้าใจภาษาไทยให้จัดหาล่ามให้ตามประมวลกฎหมาย

          วิธีพิจารณาความอาญาหรือจัดหาเทคโนโลยีสิ่งอำานวยความสะดวกหรือ
          ความช่วยเหลืออื่นใดให้ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ
          ชีวิตคนพิการ

                                           (๔.๕)  ในกรณีเด็กเป็นผู้ต้องหา ก่อน
          เริ่มการถามปากคำาพนักงานสอบสวนต้องถามผู้ต้องหาว่ามีทนายความหรือ
          ไม่ ถ้าไม่มีให้จัดหาทนายความให้และแจ้งสิทธิให้ทราบดังต่อไปนี้

                                                  (๔.๕.๑)  ผู้ต้องหามีสิทธิ
          ที่จะให้การหรือไม่ก็ได้ ถ้าผู้ต้องหาให้การถ้อยคำาที่เด็กหรือเยาวชนให้การนั้น
          อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้

                                                  (๔.๕.๒)  ผู้ต้องหามีสิทธิ
          ให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำาตนได้

                                           (๔.๖)  การถามปากคำาเด็กคนใด
          หรือคำาถามใดที่นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์เห็นว่าอาจจะมีผลกระทบ
          กระเทือนต่อจิตใจเด็กอย่างรุนแรงให้พนักงานสอบสวนถามผ่านนักจิตวิทยา
          หรือนักสังคมสงเคราะห์โดยมิให้เด็กได้ยินคำาถามและห้าม   มิให้ถามซำ้าซ้อน

          หลายครั้งโดยไม่มีเหตุอันสมควร
                                           (๔.๗)  ให้พนักงานสอบสวนจัดให้มี

          การบันทึกภาพและเสียงการถามปากคำาดังกล่าวซึ่งสามารถนำาออกถ่ายทอด
          ได้อย่างต่อเนื่องไว้เป็นพยาน
                                           (๔.๘)  ในกรณีจำาเป็นเร่งด่วน

          อย่างยิ่งซึ่งมีเหตุอันสมควรไม่อาจรอนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์
          บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการเข้าร่วมในการถามปากคำาพร้อมกัน
          ได้ ให้พนักงานสอบสวนถามปากคำาเด็กโดยมีบุคคลใดบุคคลหนึ่งอยู่ร่วมด้วย



                                       174
   193   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203