Page 203 - คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหลักสิทธิมนุษยชน
P. 203

สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ




                            (๑๕)  ในกรณีที่ศาลไม่เห็นชอบด้วยกับคำาสั่งกำาหนด
            มาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือมี

            ข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป ให้ศาลทำาการไต่สวน
            และมีคำาสั่งโดยพลัน หากข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์เพียงพอแก่การ
            วินิจฉัยออกคำาสั่ง ศาลอาจแก้ไขเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง หรือเพิกถอนคำาสั่ง
            กำาหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์หรือออกคำาสั่งใดๆ รวมทั้ง

            กำาหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมก็ได้
                            (๑๖)  ผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับคำาสั่งของพนักงาน

            เจ้าหน้าที่หรือศาลตามมาตรานี้ สามารถยื่นอุทธรณ์คำาสั่งเป็นหนังสือ
            ขอให้ศาลทบทวนคำาสั่งได้ภายใน สามสิบวันนับแต่ทราบคำาสั่ง ให้คำาพิพากษา
            หรือคำาสั่งของศาลเป็นที่สุด

                            (๑๗) ในระหว่างการสอบสวนหรือการพิจารณาคดี
            ให้ศาลมีอำานาจออกคำาสั่งกำาหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์
            ตามมาตรา ๑๐ แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำาด้วยความรุนแรง
            ในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ หรือออกคำาสั่งใดๆ ได้ตามที่เห็นสมควร

                            (๑๘)  ในกรณีที่เหตุการณ์หรือพฤติการณ์เกี่ยวกับ
            ผู้กระทำาความรุนแรงในครอบครัว หรือผู้ถูกกระทำาด้วยความรุนแรง
            ในครอบครัวเปลี่ยนแปลงไป ศาลมีอำานาจแก้ไขเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง

            หรือเพิกถอนคำาสั่งกำาหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ หรือคำาสั่ง
            ใดๆ รวมทั้งกำาหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมก็ได้

                            (๑๙)  ในกรณีที่มีการยอมความ การถอนคำาร้องทุกข์
            หรือการถอนฟ้องในความผิดตามมาตรา ๔ ให้พนักงานสอบสวนหรือศาล
            แล้วแต่กรณี จัดให้มีการทำาบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นก่อนการยอมความ
            การถอนคำาร้องทุกข์ หรือการถอนฟ้องนั้น และกำาหนดให้นำาวิธีการตาม
            วรรคหนึ่งเป็นเงื่อนไขในการปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวโดยอนุโลม




                                         179
   198   199   200   201   202   203   204   205   206   207   208