Page 207 - คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหลักสิทธิมนุษยชน
P. 207
สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
(๑.๓) ตรวจค้นยานพาหนะใดๆ ที่มีเหตุอันควร
สงสัยตามสมควรว่ามีพยานหลักฐานหรือบุคคลที่ตกเป็นผู้เสียหาย
จากการกระทำาความผิดฐานค้ามนุษย์อยู่ในยานพาหนะนั้น
(๑.๔) เข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ใดๆ
เพื่อตรวจค้น ยึด หรืออายัด เมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีพยานหลักฐาน
ในการค้ามนุษย์ หรือเพื่อพบและช่วยบุคคลที่ตกเป็นผู้เสียหายจากการ
กระทำาความผิดฐานค้ามนุษย์ และหากเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้
พยานหลักฐานนั้นอาจถูกโยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำาลายไปเสียก่อน
หรือบุคคลนั้นอาจถูกประทุษร้าย โยกย้าย หรือซ่อนเร้น
(๑.๕) ในการใช้อำานาจตามข้อ (๑.๔) พนักงาน
เจ้าหน้าที่ต้องแสดงความบริสุทธิ์ก่อนการเข้าค้นและรายงานเหตุผล
ที่ทำาให้สามารถเข้าค้นได้ รวมทั้งผลการตรวจค้นเป็นหนังสือต่อผู้บังคับ
บัญชาเหนือขึ้นไป ตลอดจนจัดทำาสำาเนารายงานดังกล่าวให้ไว้แก่
ผู้ครอบครองเคหสถานหรือสถานที่ค้น ถ้าไม่มีผู้ครอบครองอยู่ ณ ที่นั้น
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสำาเนารายงานนั้นให้แก่ผู้ครอบครองดังกล่าว
ในทันทีที่กระทำาได้
(๑.๖) และหากเป็นการเข้าค้นในเวลาระหว่าง
พระอาทิตย์ตกและขึ้น พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าในการเข้าค้น
ต้องดำารงตำาแหน่งนายอำาเภอ หรือรองผู้กำากับการตำารวจขึ้นไป
หรือเป็นข้าราชการพลเรือนตั้งแต่ระดับเจ็ดขึ้นไป ทั้งนี้ให้พนักงาน
เจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าในการเข้าค้นส่งสำาเนารายงานเหตุผลและ
ผลการตรวจค้น บัญชีพยานหลักฐาน หรือบุคคลที่ตกเป็นผู้เสียหาย
จากการกระทำาความผิดฐานค้ามนุษย์ และบัญชีทรัพย์ที่ได้ยึดหรือ
อายัดไว้ต่อศาลจังหวัดที่มีเขตอำานาจเหนือท้องที่ที่ทำาการค้นหรือศาลอาญา
ภายในสี่สิบแปดชั่วโมงหลังจากสิ้นสุดการตรวจค้นเพื่อเป็นหลักฐาน
183