Page 51 - รายงานฉบับสมบูรณ์ ฉบับย่อ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 51

โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :11
                                                                   กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 43

             Insurance) และสวัสดิการสังคม โดยภายใต้การประกันสังคม จะเป็นระบบประกันชราภาพ ที่มีกองทุน

             ประกันสังคม ที่ประกอบไปด้วย กองทุนชราภาพและผู้อยู่ข้างหลัง และกองทุนประกันการพิการ/การไร้
             ความสามารถ ซึ่งเป็นแหล่งทุนที่ผู้ประกันตนได้มีส่วนร่วมในการจ่ายจากรายได้ในขณะที่ท างานทั้งที่อยู่ใน
             ระบบการจ้างงานและนอกระบบการจ้างงาน ที่เป็นค่าจ้างเงินเดือน หรือรายได้จากการประกอบการเอง
             กองทุนจะมีการเบิกจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนเมื่อเกษียณและ/หรือเมื่อเสียชีวิต คู่สมรสหรือบุตรที่อยู่ข้างหลังก็มี
             สิทธิได้รับผลประโยชน์ รวมทั้งเมื่อผู้ประกันตนพิการหรือไร้ความสามารถ เช่นเดียวกันกับการประกันสุขภาพ

             จะมีระบบประกันสุขภาพที่ผู้ประกันจะได้รับผลประโยชน์เมื่อเจ็บป่วยเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นคนไข้นอก
             หรือคนไข้ในโรงพยาบาล ส าหรับ สวัสดิการสังคมนั้น ผู้สูงอายุไม่ต้องจ่ายหรืออาจจะจ่ายในบางส่วนโดยการ
             สนับสนุนอุดหนุนจากการใช้บริการที่จัดให้โดยรัฐ ผ่านหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง

                    จากการศึกษากฎหมาย นโยบายและมาตรการที่เกี่ยวข้อง พบว่า มีปัญหาและอุปสรรคในการคุ้มครอง
             สิทธิของผู้สูงอายุจากการเลือกปฏิบัติทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ดังนี้

                       6.1.1.1 การขาดกฎหมายคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุว่าด้วยการเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน

                       ในระบบการจ้างงานที่มีนายจ้างไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน พบว่า มีการก าหนดอายุเกษียณ
             ไว้อย่างเป็นภาคบังคับที่อายุ 60 ปี และที่ไม่เป็นภาคบังคับ จะอยู่ที่ 55 ปี ในขณะที่ในประเทศอื่นที่ได้ศึกษา
             ได้มีการขยายอายุเกษียณเป็น 65 ถึง 67 ปี หรือมีการยกเลิกระบบเกษียณอายุภาคบังคับ เพื่อให้สิทธิ
             แก่ผู้สูงอายุที่ต้องการท างานจะได้มีโอกาสได้งานท า ส าหรับประเทศไทยยังการขาดกฎหมายคุ้มครองสิทธิของ

             ผู้สูงอายุว่าด้วยการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานโดยเฉพาะ ดังเช่นกฎหมายมาตรการการจ้างงาน (The
             Employment Measure Act - EMA) และกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงด้านการจ้างงานผู้สูงอายุ (The Act
             Concerning Stabilization of Employment of Older Persons) ของญี่ปุ่น หรือ กฎหมายสิทธิพลเมือง (Civil
             Rights Act) และกฎหมายการเลือกปฏิบัติต่ออายุในการจ้างงาน (Age Discrimination in Employment Act)

             ของสหรัฐอเมริกา หรือ พ.ร.บ.เกษียณอายุและการจ้างงานใหม่ (Retiement and Reemployment Act) ของ
             สิงคโปร์ เป็นต้น
                       ประเทศไทยมีการรับรองสิทธิในการประกอบอาชีพของบุคคลไว้อย่างกว้าง มิได้ระบุเป็นการ
             เฉพาะถึงสิทธิของผู้สูงอายุแต่อย่างใดในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เช่น มาตรา 74

             วรรคหนึ่ง ที่ระบุเพียงค าว่า “ประชาชน” และ “แรงงาน” ส าหรับพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 เป็น
             กฎหมายที่ได้ตราขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในการคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุใน
             ด้านการประกอบอาชีพและการฝึกอบรมอาชีพ และอยู่ในการบังคับใช้ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความ
             มั่นคงของมนุษย์ กระทรวงหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถน าไปบัญญัติเพิ่มเติมในกฎกระทรวงหรือระเบียบ

             ให้สอดคล้อง ซึ่งจะด าเนินการหรือไม่ เมื่อใด ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของกระทรวงหรือหน่วยงานนั้น ดังเช่น
             กระทรวงแรงงาน มีพระราชบัญญัติแรงงาน ในการคุ้มครองแรงงาน แต่เป็นการคุ้มครองแรงงานที่อยู่ในระบบ
             การจ้างงานที่มีนายจ้างในภาคเอกชน จึงไม่ครอบคลุมการคุ้มครองแรงงานในภาคนอกระบบการจ้างงานและ
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56