Page 54 - รายงานฉบับสมบูรณ์ ฉบับย่อ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 54

46 | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ (Final Report) (ฉบับย่อ)


                       6.1.1.5 การขาดระบบการดูแลระยะยาวและระยะสุดท้าย
                       การขาดระบบการดูแลระยะยาวและระยะสุดท้ายส าหรับผู้สูงอายุ เพื่อเป็นระบบส าหรับผู้สูงอายุ

             ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยเฉพาะการบริหารจัดการกิจการในส่วนผู้ให้บริการ การพัฒนาบุคลากรใน
             การเป็นผู้ดูแล (Care givers) ให้มีมาตรฐานและมีคุณภาพ การควบคุมค่าใช้จ่าย การช่วยเหลือหรือสนับสนุน
             สมาชิกในครอบครัวที่ต้องออกจากงานมาท าหน้าที่ดูแล เป็นต้น กล่าวคือ ระบบประกันสังคมและระบบการ
             ประกันสุขภาพในปัจจุบันของประเทศไทย ยังไม่ได้ครอบคลุมการดูแลระยะยาวส าหรับผู้สูงอายุ


                       6.1.1.6 การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
                       การขาดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุ ทั้งในภาคประชาสังคม
             ซึ่งได้แก่ องค์กรไม่แสวงหาก าไร และภาคเอกชน ซึ่งจากผลการส ารวจการใช้บริการต่าง ๆ ที่จัดให้โดยภาครัฐ

             ภาคเอกชน และองค์กรไม่แสวงหาก าไร ผู้สูงอายุทั้งหมดตอบว่าไม่เคยเข้าใช้บริการขององค์กรไม่แสวงหาก าไร
             เลย  ส าหรับภาคเอกชนมีสัดส่วนของผู้สูงอายุที่เข้าใช้บริการด้านต่าง ๆ สูงสุด ประมาณร้อยละ 30 เท่านั้น
                25
             และเหตุผลที่ส าคัญอันดับแรกของการไม่เข้าใช้บริการของภาคเอกชน คือ ค่าใช้จ่ายสูง ประเทศไทยยังขาด
             ภาคเอกชนที่จะด าเนินการในลักษณะของวิสาหกิจหรือธุรกิจที่ไม่แสวงหาก าไร (Social enterprises)

             ในการจัดให้บริการแก่ผู้สูงอายุ เช่น โครงการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน โครงการโภชนาการส าหรับผู้สูงอายุ (เช่น
             Meal-on-the-wheel) เป็นต้น
                       ส าหรับการมีส่วนร่วมของสมาชิกในครอบครัวในการดูและผู้สูงอายุ โดยเฉพาะ คู่สมรส หรือบุตร
             หลานที่มีงานท า แต่ต้องลาออกจากงาน เพื่อมาดูแลผู้สูงอายุที่ช่วยตนเองไม่ได้ บุคคลเหล่านี้ก็ยังไม่ได้รับการ

             คุ้มครองหรือช่วยเหลือจากนโยบายหรือมาตรการใด ๆ ในการส่งเสริมให้มีส่วนร่วม มีมาตรการจูงใจทางภาษี
             คือ การลดหย่อนภาษีในกรณีเลี้ยงดูบุพการี ในกรณีที่บุพการีไม่มีรายได้ ซึ่งอาจไม่ใช่มาตรการจูงใจพอที่จะ
             ช่วยให้บุคคลเหล่านี้ไม่เกิดปัญหาขาดรายได้และเกิดความเครียดที่อาจน าไปสู่การท าร้าย การละเลย หรือการ
             ทอดทิ้งผู้สูงอายุ

                       ส าหรับในกรณีของอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ ก็ยังมีปัญหาในด้านมาตรฐานการท างานและการ
             ไม่มีแรงจูงใจทางการเงิน เนื่องจากการท างานดูแลผู้สูงอายุในชุมชนส่วนใหญ่จะไม่ได้รับค่าตอบแทน ในกรณีที่
             ได้รับก็เป็นค่าตอบแทนที่ต่ ามาก ปัจจุบัน กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้ทดลองเริ่มใช้ระบบธนาคารเวลาในพื้นที่
             น าร่อง โดยประกาศหาผู้ลงทะเบียนท างานดูแลผู้สูงอายุ โดยน าเวลาที่อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ ฝากไว้ใน

             ธนาคารเวลา และสามารถถอนเวลาที่ฝากไว้คืนในเวลาที่สูงอายุและต้องอาศัยการดูแลเป็นโครงการที่เพิ่งได้
             เริ่มต้นในกลางปี 2561 และอยู่ในขั้นการลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครเท่านั้น







                  25 มีเพียง 1 รายที่ตอบว่าใช้บริการด้านการศึกษาและฝึกอบรมและอีก 1 รายได้เข้าร่วมกิจกรรมชมรม.
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59