Page 427 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 427

โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :1111
                                                                  กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 369

             ให้สามารถด ารงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ทั้งการช่วยเหลือทางด้านการรักษาพยาบาล โภชนาการด้านอาหาร

             ที่อยู่อาศัย เป็นต้น
                       ส าหรับประเทศไทย การคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุจะเน้นด้านสวัสดิการแก่ผู้สูงอายุบนฐานของ
             แนวคิดว่าผู้สูงอายุเป็นกลุ่มประชากรที่เปราะบาง เนื่องจากมีฐานะยากจน ไม่มีทีอยู่อาศัย ไม่มีผู้ดูแล หรือถูก
             ทารุณกรรม หน่วยงานรัฐที่มีบทบาทหลักในการคุ้มครองผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางนี้ คือ กรมกิจการผู้สูงอายุ
             กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในส่วนของการประกันสังคม เป็นการคุ้มครองแรงงาน

             ภายใต้กฎหมายแรงงานโดยกระทรวงแรงงาน และจัดตั้งกองทุนประกันสังคมเพื่อคุ้มครองแรงงานในกรณีที่
             แรงงานเจ็บป่วยและเกษียณ ซึ่งเป็นการประกันสุขภาพและการประกันชราภาพ โดยนายจ้างและลูกจ้าง
             ร่วมกันจ่ายเบี้ยประกันสังคม อย่างไรก็ตาม ระบบประกันสังคมของประเทศยังไม่เป็นสากล เนื่องจากเป็น

             ระบบประกันสังคมของแรงงานในระบบการจ้างงาน หากอยู่ในภาครัฐก็จะมีกองทุนบ าเหน็จบ านาญข้าราชการ
             (กบข.) หรือในภาคเอกชนก็จะมีกองทุนประกันสังคมที่จ่ายผลประโยชน์ในกรณีชราภาพ ที่เรียกว่า เงิน
             บ าเหน็จ หรือเงินบ านาญ แต่ส าหรับกรณีของแรงงานนอกระบบการจ้างงาน หรือ ผู้ประกอบการของตนเอง
             ยังไม่มีระบบบ านาญ ถึงแม้รัฐบาลได้จัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และก าลังพิจารณาจัดตั้งกองทุน
             บ านาญแห่งชาติ ก็ไม่ทันคุ้มครองผู้ที่สูงอายุที่เกษียณแล้วในปัจจุบัน อาจจะเป็นประโยชน์ต่อ

             กลุ่มประชากรในวัยท างานที่จะเกษียณในอนาคต
                       ดังนั้นในการคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุให้มีความมั่นคงทางสังคม ยังเป็นการเลือกปฏิบัติต่อผู้สูงอายุที่
             มีระบบประกันสังคมและประกันสุขภาพเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่เคยท างานอยู่ในระบบการจ้างงานจากภาครัฐ

             และภาคเอกชน แต่ไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่ท างานอยู่นอกระบบการจ้างงานหรือประกอบกิจการของ
             ตนเอง

                       6.1.1.3 การขาดหลักเกณฑ์ด้านรายได้เพื่อรับสวัสดิการสังคมเพื่อลดการใช้ดุลยพินิจ

                       การรับสวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุที่เป็นที่รับรู้ของผู้สูงอายุทุกคน คือ เบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุ ซึ่ง
             เป็นสวัสดิการครอบคลุมผู้สูงอายุทุกคน (Universal coverage) ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และไม่เป็นผู้ที่
             ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเทศบาล อบต.  อย่างไรก็ตาม
                                                                               297
             ในการให้สวัสดิการสังคมแก่ผู้สูงอายุที่ “ยากจน” หรือ “รายได้ต่ า” ยังขาดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการคัดเลือก
             ผู้สูงอายุ ส าหรับการคัดเลือกผู้เข้ารับสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ โดยใช้เกณฑ์ “อายุ” นั้นชัดเจน เพราะมีการระบุ

             ไว้ในรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 ว่า ผู้สูงอายุ คือ ผู้ที่มีอายุ “60 ปีขึ้นไป” แต่ในส่วน
             เกณฑ์ “ยากจน” หรือ “รายได้ต่ า” จะใช้เกณฑ์อะไรและอย่างไร ในปัจจุบันมีการก าหนดคุณสมบัติของ





                  297 ได้แก่ ผู้รับเงินบ านาญ เบี้ยหวัด บ านาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์
             ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจ า หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐ
             หรือเทศบาล อบต.จัดให้เป็นประจ า.
   422   423   424   425   426   427   428   429   430   431   432