Page 423 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 423

โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :1111
                                                                  กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 365

                                                 บทที่ 6

                   บทวิเคราะห์และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติต่อผู้สูงอายุในประเทศไทย


                    จากการศึกษาจากเอกสาร พบว่า ผู้สูงอายุมีสิทธิและเสรีภาพในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่มีอายุสูงขึ้น
             ภายใต้ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และปฏิญญาผู้สูงอายุไทย และการรับรองสิทธิ

             ของผู้สูงอายุในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 ในการรับรอง
             สิทธิของผู้สูงอายุไทย และรัฐบาลไทยก็ได้ให้สิทธิแก่ผู้สูงอายุในลักษณะของสิทธิเชิงบวก (Positive rights) คือ
             การให้หน่วยงานของรัฐภายใต้กรอบกฎหมายที่ให้อ านาจหน้าที่แก่หน่วยงานนั้น ๆ จัดหาสวัสดิการและการ
             ประกันสังคมที่เกี่ยวข้องแก่ผู้สูงอายุตามสิทธิที่มีการระบุไว้ในรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ
             พ.ศ. 2546

                    ภายใต้การได้รับการคุ้มครองสิทธิจากปฏิญญาสากลและกฎหมายไทย ในการศึกษาส ารวจข้อมูล
             เกี่ยวกับประสบการณ์ในการถูกเลือกปฏิบัติ และการรับรู้สิทธิของผู้สูงอายุตามที่ระบุไว้ใน พระราชบัญญัติ
             ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 พบว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุไทยส่วนใหญ่ระบุว่าไม่มีประสบการณ์ในการถูกเลือกปฏิบัติ

             จากบุคคลใกล้ชิด ได้แก่ สมาชิกในครอบครัว บุคคลในชุมชนที่เป็นเพื่อนบ้านหรือบุคคลอื่นในพื้นที่อยู่อาศัย
             สถานที่ท างานที่เป็นนายจ้าง เพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้อง และจากบุคคลในสังคมที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคล
             ทั่วไป ในกรณีที่มีประสบการณ์ในการถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นส่วนน้อย ถ้าเกิดจากบุคคลใกล้ชิด จะเป็นการท า
             ร้ายโดยวาจา การทอดทิ้งละเลย การท าร้ายร่างกาย จะเกิดจากคู่สมรส และการขโมยเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุ
             จะเกิดจากลูกหลาน การเลือกปฏิบัติจากบุคคลภายนอกครอบครัวนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการท าร้ายโดยวาจา

             หรือการแสดงกิริยาดูถูก หรือการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมในสถานที่ท างานหรือการเข้าใช้บริการทางการแพทย์
             หรือบริการขนส่งสาธารณะ
                    ในประเด็นของการรับรู้สิทธิของผู้สูงอายุที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ

             พ.ศ. 2546 นั้น ส่วนใหญ่ทุกกลุ่มอายุรับรู้สิทธิในการได้รับการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพเป็นรายเดือนมากที่สุด
             ล าดับรองลงมา คือ สิทธิในการได้รับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่สะดวกและรวดเร็ว การช่วยเหลือ
             ด้านค่าโดยสารยานพาหนะ การยกเว้นค่าเข้าชมสถานที่ของรัฐ การอ านวยความสะดวกและความปลอดภัยใน
             อาคาร สถานที่ ยานพาหนะ และบริการสาธารณะอื่น ๆ การพัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคม
             และการรวมกลุ่มในลักษณะเครือข่าย การสงเคราะห์ค่าจัดการศพ การประกอบอาชีพและการฝึกอาชีพที่

             เหมาะสม การศึกษา ศาสนา ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการด าเนินชีวิต
                    ส่วนการรับรู้เกี่ยวกับสิทธิด้านกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ถูกทารุณกรรม
             หรือถูกแสวงหาประโยชน์หรือถูกทอดทิ้ง และการให้ค าปรึกษา แนะน า ด าเนินการในทางคดี หรือแก้ไขปัญหา

             ครอบครัวนั้น สัดส่วนของผู้สูงอายุในทุกกลุ่มวัยที่ตอบว่ารับรู้มีต่ ามาก แต่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่เกินกว่าร้อยละ 60
             ไม่รับรู้ถึงสิทธิด้านกระบวนการยุติธรรม และสิทธิในการจัดที่พักอาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ตามความจ าเป็น
   418   419   420   421   422   423   424   425   426   427   428