Page 124 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 124
66 | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
เป็นแนวทางหลักในการด าเนินการ และมีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนนโยบายที่มีทิศทางสอดคล้อง
กันระหว่างกระทรวงต่าง ๆ จากนโยบายสังคมสูงอายุของสิงคโปร์ โดยสามารถสรุปหัวใจส าคัญได้อย่างน้อย
3 ประการ คือ
1) มีความรอบด้าน ครอบคลุมหลายมิติของสวัสดิการสังคม
2) ไม่เน้นเพียงการให้สวัสดิการโดยผู้สูงวัยเป็นเพียงผู้รับอย่างเดียว หากยังเน้นการดึงศักยภาพ
ของผู้สูงอายุออกมาใช้
3) อาศัยการประสานงานกันระหว่างหลายภาคส่วน ไม่ใช่เน้นแต่ผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียวแต่
มุ่งเน้นหลายมิติของครอบครัว เช่น เด็ก และการศึกษา เป็นต้น
ดังนั้น ในส่วนนี้จะได้กล่าวขยายความถึงการคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุในสิงค์โปร์ 3 ด้านได้แก่
ผู้สูงอายุกับการคุ้มครองสิทธิทางเศรษฐกิจ (3.1.1) ผู้สูงอายุกับการคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต
(3.1.2) และผู้สูงอายุกับการคุ้มครองสิทธิในกระบวนการยุติธรรม (3.1.3) โดยจะได้น าเสนอสถานการณ์ใน
แต่ละด้านรวมถึงมาตรการและกลไกในการคุ้มครองสิทธิ มีรายละเอียดดังนี้
3.1.1 ผู้สูงอายุกับการคุ้มครองสิทธิทางเศรษฐกิจ
3.1.1.1 สถานการณ์ด้านการคุ้มครองสิทธิทางเศรษฐกิจ
จากสภาพการณ์แนวโน้นผู้สูงอายุในประเทศสิงค์โปร์ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นนั้น ตามโครงสร้าง
ประชากรที่เพิ่มขึ้นประกอบกับเมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ค่าครองชีพในพบว่าอยู่ในอัตราที่สิงคโปร์สูงมาก
โดยเฉพาะในวัยเกษียณมีแนวโน้นที่ค่าครองชีพอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจาก ต้องใช้เงินจ านวนหนึ่งในการจ่ายค่า
รักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายในการดูแลด้านสุขภาพที่อาจเพิ่มมากขึ้น หรือในกรณีค่าใช้จ่ายในระหว่างเวลาว่าง
และค่าใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน ค่าครองชีพปกติส าหรับผู้สูงอายุ เช่น อาหาร การขนส่ง สาธารณูปโภค กิจกรรม
นันทนาการที่ส าคัญต่อคุณภาพชีวิต ทั้งนี้ จากการส ารวจโดย The National Trades Union Congress
(NTUC) พบว่ารายได้เกษียณเฉลี่ยของประชาชนชาวสิงค์โปร์ที่เพียงพอต่อความต้องการในการด ารงชีวิตเท่ากับ
88
3,314 เหรียญสิงค์โปร์ต่อเดือน นอกจากนี้ ในขณะที่สถานการณ์การวางแผนและบริหารจัดการทางการเงิน
ของลูกจ้างชาวสิงคโปร์โดยการส ารวจค่าใช้จ่ายทางการเงินในการเกษียณอายุพบว่า ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง
การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้อื่นและการกู้ยืมเงินมีความแตกต่างกันไปตามอายุ โดยคนช่วงอายุ 30 ปีและ 40
ปี ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมีความระมัดระวังทางการเงิน โดยคนช่วงอายุ 30 ปี (69%) และ 40 ปี (78%)
ได้รับการสนับสนุนทางการเงินและมีแนวโน้มที่จะกู้ยืมเงิน (62% และ 59% ตามล าดับ) ซึ่งแตกต่างกับคนที่มี
88 From Retirement Planning in Singapore (2018)-A Starter Guide for Confused Millennials, by Clara
Lim, 2018, Retrieve from https://blog.moneysmart.sg/budgeting/retirement-planning-singapore/.