Page 51 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 51

รายงานผลการประเมินสถานการณ์   49
                                                                           ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี  2565


                 เผาท�าลายสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินของชาวบ้าน 155   เป็นวิทยากรในกิจกรรมเวทีเสวนาสาธารณะ โดยทั้ง

                 รวมถึงกรณีกลุ่มผู้เรียกร้องด้านสิทธิชุมชนและสิทธิ   2 ค�าร้อง อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนเรื่อง
                 ของกลุ่มชาติพันธุ์ ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท   ร้องเรียนเกี่ยวกับประเด็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน

                 โดยการโฆษณา จากการโพสต์เกี่ยวกับการท�าหน้าที่ของ  ที่ส�าคัญ ซึ่ง กสม. ด�าเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น
                 ผู้สื่อข่าวรายหนึ่ง ซึ่งศาลรับฟ้องและให้ปล่อยตัวชั่วคราว  ในปี 2565 ได้แก่
                 โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์                                   1) กรณีกล่าวอ้างว่ามีการบังคับให้นักเรียน
                                      156

                 2.  ควำมคืบหน้ำทำงคดีของนักปกป้อง                 ลาออกจากโรงเรียน และกลั่นแกล้งด�าเนินคดีอาญากับ
                   สิทธิมนุษยชน                                    ผู้ปกครอง โดยแจ้งความด�าเนินคดีอาญาตาม พ.ร.บ.
                                                                   ว่าด้วยการกระท�าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
                        พบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรณีผู้หญิง   ในหลายพื้นที่จากกรณีเดียวกัน กสม. เห็นว่าการกระท�า
                 นักปกป้องสิทธิมนุษยชน 2 คน ซึ่งเป็นอดีต กสม. และ   ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นกรณี SLAPPs เพื่อสร้างภาระให้แก่
                 ผู้ท�างานภาคประชาสังคม ยื่นฟ้องหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับ   บุคคลในการต่อสู้คดีมากกว่าการร้องขอความยุติธรรม

                 ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (Information Operation: IO)    และมีข้อเสนอแนะให้ ตร. ปรับปรุงแนวปฏิบัติของ
                 โดยศาลแพ่งได้สืบพยานเรียบร้อยแล้ว และก�าหนด       พนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการด�าเนินคดีที่มีลักษณะเป็น

                 นัดอ่านค�าพิพากษาในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566  กรณี  กรรมเดียว แต่มีการร้องทุกข์ในหลายพื้นที่ โดยไม่เพิ่ม
                                                         157
                 อดีต กสม. และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน 2 คน ถูกบริษัท  ภาระหรือจ�ากัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ
                 เอกชนแห่งหนึ่งฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการ

                 โฆษณา จ�านวน 2 คดี โดยศาลมีค�าสั่งรับฟ้อง เนื่องจาก  ตลอดจนให้ ครม. และส�านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
                 พิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าบริษัทเอกชน  พิจารณาเร่งผลักดันการออกกฎหมายที่มีหลักการป้องกัน

                 ใช้สิทธิฟ้องคดีโดยไม่สุจริตหรือกลั่นแกล้ง ตามประมวล  การฟ้องคดีปิดปาก หรือการด�าเนินคดีโดยไม่สุจริต
                                                                                                               161
                 กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161/1 และ         เพื่อเป็นการปิดปากการแสดงความคิดเห็นของประชาชน
                 ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามคนโดยไม่ต้องใช้       2) กรณีขอให้คุ้มครองกลุ่มสหพันธ์เกษตรกร

                           158
                 หลักประกัน  ทั้งนี้ ผู้ถูกฟ้องได้มีการยื่นค�าร้องขอรวม   ภาคใต้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมชนสันติพัฒนาและพื้นที่
                 การพิจารณาคดีเนื่องจากเป็นการฟ้องด้วยมูลเหตุและข้อมูล   ชุมชนคลองไทรพัฒนาซึ่งเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน

                 ชุดเดียวกัน แต่บริษัทเอกชนได้ยื่นค�าแถลงคัดค้านต่อศาล    ที่ถูกข่มขู่คุกคาม โดย กสม. มีข้อเสนอแนะให้สถานีต�ารวจ
                                     159
                 และศาลมีค�าสั่งรับฟ้อง  ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2559 บริษัท  ในพื้นที่จัดก�าลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจตราความปลอดภัย
                 เอกชนดังกล่าวได้ฟ้องคดีที่สืบเนื่องจากประเด็นพิพาท  อย่างสม�่าเสมอและต่อเนื่อง รวมถึงติดตั้งจุดตรวจหลัก

                 ด้านสิทธิแรงงานต่อนักกิจกรรมแล้ว 22 ราย รวม 37 คดี 160  (ตู้แดง) และกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความปลอดภัย 162

                        ส�าหรับสถิติเรื่องร้องเรียนในปี 2565 กสม. ได้      นอกจากนี้ ในปี 2565 กสม. อยู่ระหว่างด�าเนิน
                 รับเรื่องร้องเรียนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนักปกป้อง  โครงการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาข้อเสนอแนะในการส่งเสริม

                 สิทธิมนุษยชน จ�านวน 2 ค�าร้อง ได้แก่ กรณีผู้ที่เรียกร้อง   และคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยจะมีการศึกษา
                 ให้มีการสอบสวนคดีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม        และทบทวนสถานการณ์ กฎหมาย กลไกและมาตรการ

                 สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกหน่วยงานของรัฐน�าชื่อไปบรรจุไว้ในเอกสาร    ที่มีอยู่อย่างเป็นระบบ เพื่อออกแบบและพัฒนากฎหมาย
                 “บุคคลเฝ้าระวังพิเศษ (ระดับแดง)” และเผยแพร่ให้    ระบบ กลไกและมาตรการในการส่งเสริมและคุ้มครอง
                 เจ้าหน้าที่ติดตาม และกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ให้นักปกป้อง   นักปกป้องสิทธิมนุษยชนให้ครอบคลุมและถูกน�ามาใช้

                 สิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ท�าหน้าที่  อย่างมีประสิทธิผล








        001-234 V9 CS6.indd   49                                                                                   3/14/23   8:40 PM
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56