Page 145 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 145
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 143
ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
การรักษาพยาบาล นอกจากนี้ เด็ก ๆ ยังต้องการอาหารที่มี โรงเรียนต้องปิดเรียน รัฐบาลโดย สมช. ได้จัดท�าแนวปฏิบัติ
597
คุณค่าทางโภชนาการและสิ่งของจ�าเป็น และหน่วยงาน ในการบริหารจัดการผลกระทบจากสถานการณ์
ความมั่นคงของประเทศไทยขอให้ผู้หนีภัยความไม่สงบฯ ความไม่สงบในประเทศเมียนมาเพื่อเป็นแนวทางให้แก่
เดินทางกลับประเทศเมียนมา ท�าให้ต้องเดินทางไปกลับ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการดูแลให้ความช่วยเหลือ
598
ระหว่างประเทศหลายครั้งเมื่อมีการสู้รบ และยังพบ ผู้หนีภัยความไม่สงบฯ และประชาชนชาวไทยที่ได้รับ
รายงานกล่าวอ้างว่ามีบุคคลขายบัตรต�ารวจในราคา 350 ผลกระทบ ซึ่งสอดคล้องตามข้อเสนอแนะของ กสม.
บาท เพื่อให้อ�านวยความสะดวกแก่ผู้หนีภัยความไม่สงบฯ ในรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน
สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่และไม่ถูกจับกุมหรือน�าตัว ของประเทศไทย ปี 2564 ทั้งนี้ พบว่า ในปี 2565 ประเทศไทย
599
ผลักดันส่งกลับ ซึ่ง ตร. ได้ชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบที่ชัดเจนมากขึ้น รวมถึง
หากพบมีเจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ในทางมิชอบ ให้การดูแลกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ เช่น ผู้บาดเจ็บ
จะด�าเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป 600 ผู้ป่วย เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และสตรีตั้งครรภ์ แต่ยังพบ
603
ข้อห่วงกังวลจากภาคประชาสังคมต่อความปลอดภัย
กสม. ได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์
การช่วยเหลือและดูแลผู้หนีภัยความไม่สงบฯ และ ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ความเป็นอยู่ภายในพื้นที่
ประชาชนไทยบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาอย่างต่อเนื่อง การประสานความร่วมมือกับภาคประชาสังคมในการส่งมอบ
โดยได้ประสานข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม สิ่งของให้แก่ผู้หนีภัย การดูแลกลุ่มเปราะบางให้เข้าถึง
และองค์กรพัฒนาเอกชนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งลงพื้นที่ สิทธิขั้นพื้นฐาน และการขอให้ผู้หนีภัยความไม่สงบฯ
ต. แม่หละ อ. ท่าสองยาง และ อ. แม่สอด จ. ตาก เดินทางกลับไปยังบ้านเรือนในประเทศเมียนมาที่ต้องไป
เพื่อติดตามสถานการณ์และผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน กลับหลายครั้งเนื่องจากมีการสู้รบเป็นระยะ ซึ่งรัฐบาล
จากความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา และรับฟัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรท�าให้มั่นใจได้ว่าไม่มีการ
601
ข้อเท็จจริงจากภาคประชาสังคม รวมถึงจัดประชุมหารือ ผลักดันผู้หนีภัยความไม่สงบฯ กลับไปขณะที่ยังมีการสู้รบ
เกี่ยวกับแนวทางในการช่วยเหลือและดูแลผู้หนีภัย และจะดูแลช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมอย่างเต็มที่
ความไม่สงบฯ และประชาชนไทยบริเวณชายแดนไทย- รวมถึงพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่
เมียนมา เพื่อรับฟังสถานการณ์ ข้อมูลและความเห็น ประเทศไทยเป็นภาคี และเพื่อให้สอดคล้องกับค�ามั่น
เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยสมัครใจของประเทศไทยภายใต้กลไก UPR รอบที่ 3
แก่ผู้หนีภัยความไม่สงบฯ และประชาชนไทยบริเวณ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่พักพิงอย่าง
ชายแดนไทย-เมียนมาที่ครอบคลุมประเด็นสิทธิมนุษยชน เหมาะสม จัดให้มีบริการสาธารณสุขส�าหรับผู้โยกย้าย
ในมิติต่าง ๆ จากหน่วยงานภาครัฐที่เป็นผู้ก�าหนดนโยบาย ถิ่นฐาน ผู้ลี้ภัย และผู้แสวงหาที่พักพิงในสถานกักกัน
และผู้ปฏิบัติ 602 ควบคุมตัวต่าง ๆ และคุ้มครองสิทธิของผู้โยกย้ายถิ่นฐาน
และสมาชิกครอบครัว และการยุติการส่งกลับผู้ลี้ภัยจาก
กำรประเมินสถำนกำรณ์สิทธิมนุษยชน เมียนมาและค�านึงถึงความเสี่ยงที่ร้ายแรงต่อชีวิตและ
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน
ในปี 2565 การปะทะระหว่างกองก�าลังทหาร ในประเทศเมียนมา
เมียนมากับกองก�าลังกลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มต่อต้าน
กองทัพเมียนมาตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาเกิดขึ้น ในปี 2565 ประเทศไทยให้การช่วยเหลือ
ต่อเนื่องมาจากปี 2564 และขยายพื้นที่ไปยังบริเวณ ผู้หนีภัยฯ ที่เป็นระบบมากขึ้น รวมถึงให้การดูแล
ตรงข้าม อ. สวนผึ้ง จ. ราชบุรี ส่งผลให้ชาวเมียนมาหนีภัย ผู้หนีภัยฯ กลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ แต่ยังพบ
ความไม่สงบเข้ามาในประเทศไทย และยังส่งผลต่อราษฎร ข้อห่วงกังวล ต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่
ไทยท�าให้บ้านเรือนและทรัพย์สินประชาชนเสียหาย และ
ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว
001-234 V9 CS6.indd 143 3/14/23 8:40 PM

