Page 126 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 126
124
การเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบในเรื่องความรุนแรง 2. กำรคุกคำมและกำรล่วงละเมิดทำงเพศ
ต่อผู้หญิงและเด็กหญิงด้วยเหตุแห่งเพศสภาวะ จ�าแนก
ข้อมูลตามอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ ท้องที่ภูมิศาสตร์ และ สถำนกำรณ์ ปัญหำหรืออุปสรรค
ความสัมพันธ์ระหว่างเหยื่อกับผู้กระท�าการละเมิด และ ครม. มีมติเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เห็นชอบ
ข้อเสนอแนะจากกระบวนการ UPR ที่รัฐบาลได้ให้ ร่างแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืน
การตอบรับในเรื่องการขจัดความรุนแรงต่อสตรี รวมถึง กระท�าช�าเราและการล่วงละเมิดทางเพศ ระยะ 6 ปี
ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว (พ.ศ. 2565 - 2570) โดยแบ่งกลยุทธ์ตามแผนฯ ออกเป็น
3 กลยุทธ์ ได้แก่ กลยุทธ์ที่ 1 ปรับความรู้และทัศนคติ
ยังไม่พบแนวทางการป้องกันการกระทำารุนแรง ของสังคม กลยุทธ์ที่ 2 ปรับปรุงระบบงานเพื่อสร้าง
ต่อสตรีในครอบครัวตามข้อเสนอแนะของ ความเป็นธรรม และกลยุทธ์ที่ 3 ปรับมาตรการทางวินัย
คณะกรรมการประจำาอนุสัญญา CEDAW ที่ให้มี กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ความช่วยเหลือ
การแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อสตรีโดยพิจารณา ผู้เสียหาย ในส่วนการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม
523
จากรากเหง้าของปัญหา ตร. ได้จัดอบรมพนักงานสอบสวนที่มีอยู่ทั่วประเทศให้
พัฒนาความรู้การสอบสวนคดีละเอียดอ่อนโดยเฉพาะ
ข้อเสนอแนะในกำรส่งเสริมและคุ้มครอง คดีค้ามนุษย์ คดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่เกิดขึ้นมาก และ
สิทธิมนุษยชน มีนโยบายในการเพิ่มจ�านวนพนักงานสอบสวนหญิงในคดี
กสม. เห็นควรมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ความผิดเกี่ยวกับเพศ 524
1) รัฐบาลโดย พม. ควรเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อมูลจากการเสวนาวิชาการเรื่อง ปัญหาการ
เพื่อศึกษาถึงสาเหตุของปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ล่วงละเมิดทางเพศ: ปกป้อง คุ้มครองสิทธิผู้ตกเป็นเหยื่อ
และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก�าหนดแนวทางแก้ไข อย่างไร? ซึ่งจัดโดย กสม. ร่วมกับ สสส. พบว่าปัญหา
ปัญหา รวมถึงควรเร่งพิจารณาแนวทางในการรณรงค์ ความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิงนั้นมีสาเหตุที่หยั่งรากลึก
ปรับเปลี่ยนทัศนคติของสังคมที่จะต้องไม่เพิกเฉยต่อ ถึงระบบความคิดและความเชื่อของบุคคล และส่งผลไป
การใช้ความรุนแรงในครอบครัวหรือบุคคลภายนอกไม่ควร ถึงความรุนแรงทางโครงสร้าง เศรษฐกิจ สังคม การเมือง
ยุ่งเกี่ยวเพื่อให้สอดคล้องตาม พ.ร.บ. ผู้ถูกกระท�าด้วย ที่วางบทบาทความเป็นหญิงให้ด้อยกว่าและมีคุณค่า
ความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ต�่ากว่าบทบาทความเป็นชาย เป็นผลให้เกิดความรุนแรง
2) รัฐบาลโดย พม. และ มท. ควรด�าเนินการ ทางตรง ซึ่งอาจจ�าแนกได้เป็น 1) ความสัมพันธ์เชิงอ�านาจ
ร่วมกันเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในเชิงระบบด้วยการ ระหว่างผู้กระท�าความผิดกับผู้ถูกกระท�า สะท้อนรูปแบบ
เชื่อมโยงการท�างานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ความสัมพันธ์ทางอ�านาจที่ไม่เท่ากันระหว่างผู้กระท�ากับ
ที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่นและชุมชน โดย ผู้ถูกกระท�าหรือความเชื่อในสังคมนิยมชาย (patriarchy
อาจให้ศูนย์ช่วยเหลือสังคม (OSCC) สายด่วน 1300 society) หรือปิตาธิปไตย ที่ให้สิทธิผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
พม. เป็นกลไกหลักในการเชื่อมโยงหรือประสานกับกลไก 2) วัฒนธรรมตีตราผู้เสียหาย (victim blaming) โดยมี
อื่น ๆ ในพื้นที่ อาทิ บ้านพักเด็กและครอบครัว อสม. ชุดความคิดโทษผู้เสียหายว่าเป็นส่วนหนึ่งของการกระท�า
คณะกรรมการระดับชุมชน เพื่อให้เหยื่อจากความรุนแรง ความผิด เกิดการตีตราและตั้งค�าถามกับผู้หญิงที่ถูก
ในครอบครัวได้รับความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ล่วงละเมิดทางเพศว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ท�าให้เกิดปัญหา
001-234 V9 CS6.indd 124 3/14/23 8:40 PM

