Page 128 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 128

126




                 ยุติธรรมที่ยังมีขั้นตอนการสอบถามข้อมูลจากผู้เสียหายซ�้า    ในสถานที่ท�างาน ไม่จ�ากัดแค่นายจ้าง หัวหน้างาน
                 ซึ่งถือเป็นการกระท�ารุนแรงต่อผู้เสียหายอีกรูปแบบหนึ่ง    ผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงาน ที่กระท�าการล่วงเกิน
                 ในส่วนของการคุกคามทางเพศในการท�างานปรากฏกรณี      คุกคาม หรือก่อความเดือดร้อนร�าคาญทางเพศต่อลูกจ้าง

                 การล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในหน่วยงานของรัฐ     เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของทุกคนในสถานที่ท�างาน
                 แม้จะมีมติ ครม. เมื่อปี 2564 ให้หน่วยงานของรัฐ    มิให้ถูกคุกคามทางเพศ ตลอดจนการพิจารณาศึกษา
                 น�ามาตรการทางการบริหารเพื่อประสิทธิภาพในการ       การเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 190 ว่าด้วย

                 ด�าเนินการทางวินัยและจริยธรรมมาใช้ก็ตาม นอกจากนี้  ความรุนแรงและการล่วงละเมิดในโลกแห่งการท�างาน
                 ยังพบช่องว่างทางกฎหมายในเรื่องการคุกคามทางเพศใน   ค.ศ. 2019

                 สถานที่ท�างานของเอกชนที่ให้การคุ้มครองเฉพาะนายจ้าง
                 หรือหัวหน้างานกับลูกน้องเท่านั้น


                 ข้อเสนอแนะในกำรส่งเสริมและคุ้มครอง
                 สิทธิมนุษยชน


                        กสม. เห็นควรมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
                        1) รัฐบาลโดย ตร. ควรร่วมกับ อส. สร้าง

                 กระบวนการยุติธรรมที่เป็นมิตรกับผู้เสียหายโดยอาจ
                 พิจารณาวิธีการ เช่น การแก้ไขกฎหมายให้สามารถบันทึก   ที่มา : ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                 ถ้อยค�าเหยื่อผ่านกล้องวงจรปิดโดยใช้วิธีการสาบานตน

                 คล้ายคลึงกับกระบวนการที่ด�าเนินการในคดีเด็ก       3.  สิทธิอนำมัยกำรเจริญพันธุ์
                 และเยาวชน  และสามารถน�าเทปบันทึกมาใช้ในชั้น  สถำนกำรณ์ ปัญหำหรืออุปสรรค
                 การพิจารณาของศาล การแจ้งให้อัยการเข้าตรวจสอบพื้นที่       นับแต่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม

                 เกิดเหตุทันที การให้มีอัยการหญิงร่วมสอบปากค�าด้วย  ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ. 2564 โดยมี
                 ในชั้นสอบสวนท�าให้ลดขั้นตอนที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม   สาระส�าคัญเป็นการแก้ไขบทบัญญัติในมาตรา 301 โดย

                 เพื่อเป็นการลดโอกาสที่ผู้เสียหายต้องถูกถามซ�้า เป็นต้น   ก�าหนดให้หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถ
                 รวมทั้งการจัดสรรให้มีพนักงานสอบสวนหญิงเพื่อมาร่วม  ท�าแท้งได้โดยไม่ผิดกฎหมายตามค�าวินิจฉัยของศาล
                 ปฏิบัติงานด้วย                                    รัฐธรรมนูญ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 และหากท�าแท้ง

                        2) รัฐบาลโดย พม. ควรเพิ่มการรณรงค์ให้      ในอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ถือเป็นความผิดแต่มี
                 หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีความตระหนัก   การปรับลดโทษทางอาญาลง และการแก้ไขบทบัญญัติ

                 เรื่องการคุกคามทางเพศในการท�างาน และก�าชับให้     ในมาตรา  305  ซึ่งเป็นการก�าหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม
                 หน่วยงานต่าง ๆ น�ามาตรการทางบริหารตามที่ ครม.     ในการยุติการตั้งครรภ์ของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
                 มีมติมาใช้อย่างจริงจัง รวมถึงควรมีระบบการติดตาม   และตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาโดยไม่มีความผิดนั้น

                 และตรวจสอบกรณีร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง และให้      ในปี 2565 สธ. ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
                 ความคุ้มครองผู้เสียหายให้เกิดความมั่นใจที่จะได้รับ   การตรวจและรับค�าปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์

                 ความปลอดภัยตลอดทั้งกระบวนการ                      ตามมาตรา 305 (5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.
                        3) รัฐบาลโดย รง. ควรพิจารณาปรับแก้ไข พ.ร.บ.   2565 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2565 เพื่อ
                 คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ให้ครอบคลุมบุคคลต่าง ๆ    ก�าหนดแนวทางในการให้ค�าปรึกษาทางเลือกแก่ผู้หญิง









        001-234 V9 CS6.indd   126                                                                                  3/14/23   8:40 PM
   123   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133