Page 75 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
P. 75
ส�านักงาน กสม. ที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการประเมิน กลุ่มคนที่อยู่ในภาวะยากล�าบาก เด็ก และผู้สูงอายุ
สถานะของ กสม. ณ ส�านักงาน กสม. และผ่านระบบ รวมถึงประเด็นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและพื้นที่
ทางไกล (Zoom Meeting) โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ของพลเมือง
(1) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องหลักการปารีสและ
การเข้ารับการประเมินสถานะของ กสม. (2) เพื่อแลกเปลี่ยน 2) กรอบความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชน
ประสบการณ์และถอดบทเรียนการท�างานทางด้าน แห่งชาติในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia Pacific Forum
8
การประเมินสถานะของ กสม. และ (3) เพื่อรวบรวม of National Human Rights Institutions: APF)
ข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอแนะในการด�าเนินงานใน กสม. ได้เข้าร่วมประชุมประจ�าปี เพื่อเปิดโอกาสให้
อนาคตจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการท�างานเพื่อใช้ สมาชิกได้ทบทวนการท�างานในปีที่ผ่านมา โดยมีประเด็น
ประโยชน์ในการเข้ารับการประเมินสถานะของ กสม. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการท�างานในช่วง
ในรอบต่อไปการได้รับสถานะ A จะท�าให้ กสม. ได้รับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
ความเชื่อมั่นในการด�าเนินงานจากทุกภาคส่วน รวมทั้ง 2019 (COVID-19) ของกลุ่มคนเปราะบาง (กลุ่มผู้สูงอายุ
สามารถมีส่วนร่วมในการเสนอข้อคิดเห็นในประเด็น ผู้พิการ สตรีและเด็ก ผู้อพยพและผู้ลี้ภัย และกลุ่มผู้มีความ
สิทธิมนุษยชนต่าง ๆ ในเวทีสหประชาชาติได้มากขึ้น หลากหลายทางเพศ) บทบาทของสถาบันสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้ กสม. ยังต้องติดตามความคืบหน้าเรื่อง แห่งชาติต่อการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานรวมถึง
การแก้ไขกฎหมายต่อไป เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ SCA การจ่ายค่าจ้างอย่างเท่าเทียม และการหารือระดับสูง
จะติดตามเมื่อ กสม. ต้องเข้ารับการทบทวนสถานะ ของ APF (APF High Level Dialogue: HLD) เพื่อหารือ
ในอีก 5 ปีข้างหน้า เกี่ยวกับการเตรียมการเข้ารับการประเมินสถานะ
ของ กสม. ตามหลักการปารีส บทบาทของสถาบัน ผลการด�าเนินงาน ในภาพรวม
3.6.2 ความร่วมมือกับสถาบันสิทธิมนุษยชน สิทธิมนุษยชนแห่งชาติในการจัดการไต่สวนสาธารณะ
แห่งชาติภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ (Public Inquiry) ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และประเด็น
ซึ่ง กสม. เป็นสมาชิกในกรอบความร่วมมือ 3 ระดับ ผู้โยกย้ายถิ่นฐานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด
ดังนี้ ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
บทที่
1) กรอบความร่วมมือเครือข่ายพันธมิตรระดับ 3) กรอบความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชน 3
โลกว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (Global แห่งชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South
Alliance of National Human Rights Institutions: East Asia National Human Rights Institutions
GANHRI) กสม. เข้าร่วมประชุมประจ�าปีและ Forum: SEANF) ในปีที่ผ่านมา สมาชิกได้มีการแลกเปลี่ยน
9
การประชุมสมัชชาใหญ่ โดยมีประเด็นการแลกเปลี่ยน ประเด็นข้อท้าทายที่ส�าคัญในภูมิภาค เช่น การจัดตั้ง
ประสบการณ์เกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายที่มีผลต่อ ส�านักงานเลขาธิการถาวร รวมทั้งได้พิจารณาความคืบหน้า
การปฏิบัติหน้าที่ในยุคของดิจิทัล การเข้าถึงกลุ่มคน ของ SEANF ที่กรุงจาการ์ตา การจัดท�าเว็บไซต์ และ
เปราะบาง เช่น คนพิการ บุคคลในพื้นที่ห่างไกล หรือ ความร่วมมือระหว่าง SEANF กับคณะกรรมาธิการ
8 สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคที่เป็นสมาชิกรวมทั้งสิ้น 22 แห่ง โดยแบ่งออกเป็นสมาชิกสามัญ (มีสิทธิในการออกเสียง) จ�านวน 15 แห่ง ได้แก่
อัฟกานิสถาน ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย จอร์แดน มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ปาเลสไตน์ ฟิลิปปินส์ กาตาร์ เกาหลีใต้ ไทย และ
ติมอร์-เลสเต และสมาชิกสมทบ หรือ Associate Member ซึ่งไม่มีอ�านาจในการออกเสียง แต่สามารถเข้าร่วมการประชุมภายใต้กรอบ APF ได้ในทุกระดับ
จ�านวน 7 แห่ง ได้แก่ บังกลาเทศ ศรีลังกา มัลดีฟส์ โอมาน ซามัว เมียนมา และ คาซักสถาน
9 สมาชิกของ SEANF ประกอบด้วย สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคที่มีการจัดตั้งแล้ว 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์
ไทย และติมอร์-เลสเต
73