Page 92 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 92
ต่อสาธารณะอันอาจกระทบสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว การด�าเนินการของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เกียรติยศ ชื่อเสียง และครอบครัวของประชาชนในลักษณะ กสม. ได้พิจารณาค�าร้องและรับฟังความเห็นจาก
นี้อีก ต่อมาต�ารวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการแจ้งว่าสั่งการ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ส�านักงานต�ารวจ
ให้สถานีต�ารวจภูธรพระประแดงด�าเนินการตรวจสอบ แห่งชาติ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน องค์การ
และด�าเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง สงเคราะห์ทหารผ่านศึก กรมการปกครอง ส�านักงาน
แก่เจ้าหน้าที่ต�ารวจในสังกัดที่กระท�าการอันเป็นการละเมิด กิจการยุติธรรม ศูนย์รักษาความปลอดภัย ส�านักงาน
สิทธิมนุษยชนแล้ว อีกทั้งได้ก�าชับเจ้าหน้าที่ต�ารวจในสังกัด คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคธุรกิจเอกชน ได้แก่
ให้ระมัดระวังในการส่งต่อภาพถ่ายของประชาชนที่ถูกจับกุม สหพันธ์ธุรกิจรักษาความปลอดภัย สมาคมผู้ประกอบการ
ด�าเนินคดีไม่ให้เจ้าหน้าที่ต�ารวจหรือบุคคลภายนอก น�าภาพ รักษาความปลอดภัย นักวิชาการ ตลอดจนพิจารณา
รายงานผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ ๓
ดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อสาธารณะอันเป็นการกระทบ หลักการ แนวคิด กฎหมายและมาตรฐานและแนวปฏิบัติ
สิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง และ ด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องแล้ว มีข้อพิจารณา ดังนี้
ครอบครัวของประชาชน หากมีผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกด�าเนินการ
ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒.๑ การก�าหนดคุณสมบัติของพนักงานรักษาความ
ปลอดภัย ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติธุรกิจรักษา
กรณีที่ ๔ เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ ความปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๓๔ ข้อ ก. (๓)
สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
กรณีกล่าวอ้างว่าพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย มีความสอดคล้องกับหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
พ.ศ. ๒๕๕๘ ก�าหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ระหว่างประเทศและการรับรองเสรีภาพในการประกอบ
ของพนักงานรักษาความปลอดภัยมีผลกระทบต่อ อาชีพตามหลักการของรัฐธรรมนูญหรือไม่
สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ
(รายงานผลการตรวจสอบ ที่ ๑๕๑ - ๑๕๒/๒๕๕๙ ลง การที่พระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย
วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๙) (ขอปรับแก้ไขข้อความตามที่ พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๓๔ ก. (๓) ก�าหนดให้พนักงานรักษา
น.พ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ให้ความเห็นชอบแล้ว) ความปลอดภัยรับอนุญาตต้องส�าเร็จการศึกษาภาคบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ ผู้ร้องเห็นว่า
มีผู้ร้องเรียนต่อ กสม. รวม ๒ ค�าร้อง กล่าวอ้างว่า ก่อให้เกิดผลกระทบต่อพนักงานรักษาความปลอดภัย
บทบัญญัติตามพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย เดิมที่ไม่ส�าเร็จการศึกษาภาคบังคับตามที่กฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๓๔ ข้อ ก. (๓) และข้อ ข. (๓) ก�าหนดจ�านวนมากและผู้ที่จะสมัครเป็นพนักงานรักษา
ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๙ ได้ก�าหนด ความปลอดภัยเอกชนด้วย ในขณะที่ผู้แทนหน่วยงาน
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของพนักงานรักษา ที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นว่าพระราชบัญญัติธุรกิจรักษา
ความปลอดภัย เป็นบทบัญญัติที่ขัดแย้งต่อสิทธิและ ความปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๘ มีเจตนารมณ์เพื่อเสริมสร้าง
เสรีภาพในการประกอบอาชีพของพนักงานรักษาความ ศักยภาพของพนักงานรักษาความปลอดภัย อันจะเป็น
ปลอดภัยเดิม และกระทบต่อบริษัทรักษาความปลอดภัย ประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการและช่วยเสริมสร้างความสงบ
นอกจากนั้น บทนิยามของค�าว่า “ธุรกิจรักษาความปลอดภัย” เรียบร้อยของสังคม การศึกษามีส่วนท�าให้พนักงาน
ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว รักษาความปลอดภัยเกิดความส�านึกความรับผิดชอบ
มีลักษณะที่เป็นการเลือกปฏิบัติต่อพนักงานรักษา และการตัดสินใจ ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน
ความปลอดภัยที่ให้บริการในธุรกิจรักษาความปลอดภัย รักษาความปลอดภัยยังต้องมีปฏิสัมพันธ์กับปัจจัย
เอกชน จึงขอให้ กสม. มีข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไข หลายอย่าง การมีระดับการศึกษาจึงมีความจ�าเป็นกับการ
พระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๘ ปฏิบัติหน้าที่
ที่ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชน
90