Page 91 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 91

(๒) ก่อนด�าเนินการเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม  จะรับฟังได้ว่าผู้ถูกร้องเป็นผู้ที่เผยแพร่ภาพถ่ายโดยตรง
              เจ้าหน้าที่ควรแสดงตน ต�าแหน่งหน้าที่และต้นสังกัด   แต่การที่ผู้ถูกร้องเป็นผู้จัดท�าภาพถ่ายขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์  1
              พร้อมชี้แจงวัตถุประสงค์ในการเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม และเป็นข้อมูลในส�านวนการสอบสวนคดีอาญา และมี
              ให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ รวมทั้งต้องเก็บรักษา ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กเผยแพร่ภาพถ่ายของผู้ร้อง    2
              ข้อมูลที่เป็นความลับส่วนบุคคล เพื่อลดความหวาดระแวง ย่อมแสดงให้เห็นว่าภาพถ่ายของผู้ร้องถูกจัดท�าขึ้นและ
              และสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการทางยุติธรรมให้กับ อยู่ในความครอบครองดูแลของเจ้าหน้าที่ต�ารวจ ซึ่งสะท้อน   3
              ประชาชนในพื้นที่                                 ให้เห็นถึงปัญหาในการควบคุมดูแลและขาดความระมัดระวัง
                                                               อย่างเพียงพอ จนท�าให้เกิดความเสียหายและกระทบต่อ

              ผลส�าเร็จ/ความก้าวหน้าในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน  สิทธิมนุษยชนของผู้ร้องและบุคคลใกล้ชิดของผู้ร้อง จึงเป็น   4
                 ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติแจ้งผลด�าเนินการว่า ได้แจ้ง การละเลยการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
              ให้เจ้าหน้าที่ต�ารวจที่ปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบถือปฏิบัติว่า  จึงให้มีข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสม   5
              ก่อนด�าเนินการเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรมจากร่างกาย ในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน
              ไม่ว่าจะเป็นของผู้ต้องหา ผู้เสียหายหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง  ต่อส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ  ตามรัฐธรรมนูญแห่ง
              เห็นควรให้เจ้าหน้าที่ต�ารวจที่ปฏิบัติหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๔๗ (๑)
              จะต้องแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ต�ารวจ ให้แจ้ง ยศ ชื่อ  และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
              นามสกุล ต�าแหน่ง และสังกัด พร้อมกับแจ้งวัตถุประสงค์  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐
              ในการเก็บหาสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ต่อบุคคลที่จะต้องถูก มาตรา ๒๖ (๑) ประกอบมาตรา ๓๖ ดังนี้

              ตรวจสอบทราบ โดยจะต้องได้รับความยินยอมจากบุคคล
              ที่จะถูกตรวจหาสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) และหากเป็น  ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสม
              เด็กหรือเยาวชนจะต้องได้รับความยินยอมจากบิดา ในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน
              มารดา หรือผู้ปกครองของเด็กหรือเยาวชนก่อนท�าการ      (๑) ควรตรวจสอบและด�าเนินการตามกฎหมายและ
              ตรวจหาสารดังกล่าวด้วยทุกครั้ง และต้องเก็บรักษาข้อมูล ระเบียบที่เกี่ยวข้องแก่เจ้าหน้าที่ในสังกัด ที่กระท�าการ
              บุคคลที่เข้ารับการตรวจเป็นความลับส่วนบุคคล เพื่อลด  อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีการน�าภาพถ่าย
              ความหวาดระแวงและสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการ ผู้ร้องในขณะท�าทะเบียนประวัติผู้ต้องหา และภาพถ่าย

              ทางยุติธรรมให้กับประชาชนในพื้นที่                ขณะผู้ร้องถูกสวมกุญแจมือไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ


              กรณีที่ ๓ เรื่อง สิทธิพลเมือง อันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิและ  (๒) ควรก�าชับเจ้าหน้าที่ในสังกัดให้ระมัดระวังในการ  ผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
              เสรีภาพส่วนบุคคล กรณีมีผู้เผยแพร่ภาพถ่ายของผู้ร้อง  ส่งต่อภาพถ่ายของประชาชนที่ถูกจับกุมด�าเนินคดีไม่ให้
              ในระหว่างถูกจับกุมด�าเนินคดี                     เจ้าหน้าที่หรือบุคคลภายนอกน�าภาพถ่ายดังกล่าวไปเผยแพร่
                 (รายงานผลการตรวจสอบที่ ๗๖/๒๕๖๒)               ต่อสาธารณะอันอาจกระทบต่อสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
                 กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ กรณี  เกียรติยศ ชื่อเสียง และครอบครัวของประชาชนใน
              กล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ต�ารวจ สถานีต�ารวจภูธรพระประแดง  ลักษณะเดียวกับค�าร้องนี้อีก

              ถ่ายภาพผู้ร้องและมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กเผยแพร่
              ภาพถ่ายของผู้ร้อง  ซึ่งถูกจัดท�าขึ้นและอยู่ในความ  ผลส�าเร็จ/ความก้าวหน้าในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
              ครอบครองดูแลของเจ้าหน้าที่ต�ารวจในระหว่างถูกจับกุม   กองคดีอาญา ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติแจ้งว่าได้
              ด�าเนินคดี เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคลและ แจ้งต�ารวจภูธรภาค ๑ ให้ตรวจสอบและด�าเนินการ
              สิทธิของผู้ต้องหา                                ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแก่เจ้าหน้าที่ในสังกัด
                                                               ที่กระท�าการอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและก�าชับ
                 กสม. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระท�าของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ในสังกัดให้ระมัดระวังในการส่งต่อภาพถ่าย

              ต�ารวจสถานีต�ารวจภูธรพระประแดงเป็นการละเมิด  ของประชาชนที่ถูกจับกุมด�าเนินคดีไม่ให้เจ้าหน้าที่
              สิทธิมนุษยชน แม้จะไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่เพียงพอ หรือบุคคลภายนอกน�าภาพถ่ายดังกล่าวไปเผยแพร่



                                                                                                                 89
   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96